สปสช.ยืนยันไม่มีภาระหนี้สินคงค้างกับองค์การเภสัชกรรม

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – สปสช.ยืนยันไม่มีภาระหนี้สินคงค้างกับองค์การเภสัชกรรม มีงบประมาณเตรียมรอจ่ายของปี 2566 อีก 941 ล้านบาท หาก รพ.ราชวิถี ที่ทำหน้าที่จัดหายา ทำหนังสือเบิกจ่ายมา สปสช.พร้อมโอนเงินให้ภายใน 15 วันทำการทันที พร้อมแจง สปสช.จะโอนเงินค่ายาและเวชภัณฑ์ให้ รพ.ราชวิถี ในฐานะที่เป็นผู้จัดหายาจากองค์การเภสัชกรรมเป็นงวดๆ ตามผลการส่งมอบยาเข้าคลัง


สืบเนื่องจากกรณีมีรายงานข่าวว่า องค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีลูกหนี้ที่มียอดค้างชำระและยังไม่สามารถเรียกเก็บได้ (ยา เวชภัณฑ์ และวัคซีน) ในปีงบประมาณ 2566 จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) 4,133.72 ล้านบาท สำนักงานประกันสังคม (สปส.) 1,013.55 ล้านบาท ลูกหนี้ภาครัฐ 1,973.33 ล้านบาท และลูกหนี้ภาคเอกชนและส่งออก 122.34 ล้านบาท ส่งผลให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กู้เงินเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินนั้น

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า สปสช.ขอยืนยันว่าไม่มีภาระหนี้สินคงค้างกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) โดยในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ตามโครงการพิเศษของ สปสช. โดย สปสช. จะมีการกันงบประมาณไว้ตั้งแต่ต้นให้เพียงพอกับแผนความต้องการใช้ยาในแต่ละปี และในปีงบประมาณ 2566 นั้น สปสช.มีงบประมาณรอจ่ายให้กับเครือข่ายหน่วยบริการ รพ.ราชวิถี ในฐานะที่เป็นผู้จัดหายาจากองค์การเภสัชกรรม จำนวน 941 ล้านบาท สาเหตุที่ยังเป็นงบประมาณรอจ่าย สืบเนื่องจาก รพ.ราชวิถี ยังไม่ได้ทำหนังสือเบิกงบประมาณมาที่ สปสช.


โดยปกติแล้ว ในแต่ละงวดของการเบิกจ่ายนั้น ทาง อภ.จะส่งข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการให้ สปสช. เพื่อเตรียมตรวจสอบข้อมูลเพื่อจ่าย โดยเป็นการทำคู่ขนานกับการทำหนังสือเบิกจ่ายค่ายาและเวชภัณฑ์จาก รพ.ราชวิถี หลังจากนั้น เมื่อ สปสช.ได้รับหนังสือเบิกจ่ายค่ายาและเวชภัณฑ์จาก รพ.ราชวิถี ก็จะโอนเงินให้กับ รพ.ราชวิถี เพื่อนำไปจ่ายค่ายาให้กับ อภ. ภายใน 15 วันทำการ หลังจากได้รับหนังสือ

ทพ.อรรถพร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 สปสช.ยังไม่ได้รับหนังสือเบิกจ่ายค่ายาและเวชภัณฑ์ตามโครงการพิเศษจาก รพ.ราชวิถี จึงทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายค่ายาได้ โดยในปีงบประมาณ 2566 ตั้งงบประมาณการจัดหายาและเวชภัณฑ์ตามโครงการพิเศษอยู่ที่ 9,520 ล้านบาท สปสช.ได้โอนให้ รพ.ราชวิถี เพื่อนำไปจ่ายให้ อภ.แล้ว 8,281 ล้านบาท มีงบประมาณอีก 941 ล้านบาท ที่รอเบิกจ่ายหลังจากได้รับหนังสือจาก รพ.ราชวิถี ดังนั้น หาก รพ.ราชวิถี ทำหนังสือเบิกจ่ายมา สปสช.ก็จะสามารถโอนเงินค่ายาและเวชภัณฑ์ให้ได้ภายใน 15 วันทำการทันที เรื่องนี้ทาง รพ.ราชวิถี ทราบแล้ว และจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว เช่นเดียวกับการจัดหายาและเวชภัณฑ์ในแต่ละงวดของปีงบประมาณ 2567 ที่ยังมีงบประมาณรอจ่าย หาก รพ.ราชวิถี ทำหนังสือเบิกจ่าย สปสช.ก็พร้อมโอนเงินให้ภายใน 15 วันทำการทันที

ทั้งนี้ รพ.ราชวิถี ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2560 ให้เป็นเครือข่ายบริการที่จัดหายาและเวชภัณฑ์สนับสนุนยาตามโครงการพิเศษของ สปสช. ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 เป็นต้นไป เนื่องมาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ยืนยันว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่สามารถจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ได้ตามกฎหมาย จึงได้มีการหารือแนวทางแก้ไขปัญหา และได้ออกมาเป็นมติบอร์ด สปสช.ดังกล่าว ให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อ และให้ รพ.ราชวิถี เป็นตัวแทนหน่วยบริการในการจัดซื้อแทน สปสช.


18 กุมภาพันธ์ 2567

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://www.facebook.com/NHSO.Thailand.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย