“อนุทิน” น้อมนำพระราชดำรัสสู้โควิด-19 อย่างเป็นระบบ

สธ.8 เม.ย.- รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข น้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างความร่วมมือเครือข่ายการแพทย์ทุกแห่งเป็นทีมประเทศไทย พร้อมเจรจาทุกประเทศแสวงหาการสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้พร้อมทำงานต่อสู้โรคโควิด-19 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมระบบบริการตรวจรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) โรงพยาบาลจุฬาลงการณ์ สภากาชาดไทย การตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วยระบบปรึกษาทางไกล คลินิกควบคุมการติดเชื้อทางเดินหายใจ ห้องปฏิบัติการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเครื่อง RT-PCR โดยมี ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และคณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะผู้บริหารร่วมต้อนรับ


นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการ แพทย์ที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 และจะไปให้กำลังใจ สนับสนุนทุกด้านกับเครือข่ายโรงเรียนแพทย์ทั้งหมดเพื่อสร้างความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข เพราะระบบสาธารณสุขไม่ได้มีเพียงแค่กระทรวงสาธารณสุข ยังมีเครือข่ายโรงพยาบาลในทุกสังกัดที่ล้วนเป็นด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วย ตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ล้วนทำงานอย่างทุ่มเท กระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นผู้ดูแลจัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์พร้อมสนับสนุนภารกิจหน่วยงานด้านการแพทย์ในทุกองค์กร ยืนยันจะไม่ปล่อยให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ต้องสะดุด รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางและใช้ทุกความสัมพันธ์ที่มีกับประเทศผู้ผลิต เพื่อเจราจาจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นและมีมาตรฐานให้ได้มาอย่างเพียงพอ เพื่อกระจายให้ทุกโรงพยาบาลทุกสังกัดอย่างทั่วถึง


“ขอน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานให้เห็นว่าการต่อสู้กับสถานการณ์ครั้งนี้ต้องร่วมมือกันทุกส่วน ต้องทำงานอย่างเป็นระบบ ผมต้องบอกว่า พวกเราเป็นทีมเดียวกัน เป็นทีมประเทศไทย ที่จะร่วมกันต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 และเชื่อว่าจะทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยแข็งแกร่ง ด้วยความร่วมมือของทุกเครือข่ายการแพทย์เราจะผ่านพ้นสถานการณ์เหล่านี้ไปด้วยกัน” นายอนุทินกล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชน พลังสำคัญของชาติ

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง มั่นใจเป็นพลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน