ภูมิภาค 8 เม.ย. – เคอร์ฟิววันที่ 4 จ.เชียงใหม่ มีผู้ฝ่าฝืน 47 คน พบสถิติยังสูงทุกวัน ทั้งขี่รถไปหาแฟน ออกมาซื้ออาหาร ขี่รถเล่น รวมทั้งจับกลุ่มดื่ม ส่วน จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจจู่โจมจับแก๊งเสพยาเสพติด รวบได้ 3 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ยังคงตั้งจุดตรวจดูแลรักษาความเรียบร้อย หลังมีคำสั่งประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกจากบ้านหลังเวลา 22.00-04.00 น. แต่ยังพบว่ามีประชาชนทั้งชาย-หญิงฝ่าฝืนออกจากบ้าน จากการตั้งด่านตรวจทั่วทั้งจังหวัดจำนวน 47 จุด สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้มากถึง 47 ราย พบว่าสถิติยังสูงทุกวัน มีทั้งขี่รถไปหาแฟน หรือออกมาซื้ออาหาร หรือขี่รถเล่น รวมทั้งจับกลุ่มดื่ม โดยภาพรวมการตั้งจุดตรวจทั้ง 4 คืนที่ผ่านมา มีสถิติจับกุมผู้ฝ่าฝืนสะสมมากถึง 173 ราย และศาลตัดสินลงโทษจำคุก 15 วัน ปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี และห้ามออกจากเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควรเป็นเวลา 7 วัน แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนอยู่
ขณะที่นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งประกาศปิดสถานที่หรือพื้นที่จำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดทั้งปลีกและส่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 10-20 เมษายนนี้
เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจนครศรีธรรมราช ร่วมกับฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าจู่โจมและจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมเสพยาเสพติด ปรากฏว่ากลุ่มวัยรุ่นแตกกระเจิงวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง สามารถจับกุมไว้ได้ 3 คน พร้อมยึดอุปกรณ์เสพยาเสพติด ยาเสพติดจำนวนหนึ่ง รถจักรยานยนต์รวม 9 คัน
หนึ่งในสามที่ถูกจับยอมรับว่า รู้ว่ามีการห้ามไม่ให้ออกจากบ้านในช่วงกลางคืน แต่ได้มารวมตัวกันในที่ลับตา ไม่ได้ออกไปเพ่นพ่านข้างนอกแต่อย่างใด และไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่จะตามมาได้ ยอมรับว่าเสพยาไอซ์ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามา
สำหรับที่เกิดเหตุพบว่าแก๊งวัยรุ่นมีทั้งผู้ค้าและผู้เสพมารวมตัวกัน ทั้งขายทั้งเสพในจุดเดียว โดยนัดหมายกันมารวมตัวที่นี่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามมานานแล้ว และทราบว่าคืนนี้มีการรวมตัวกันร่วม 20 คน จึงสนธิกำลังเข้าจับกุม แต่กลุ่มวัยรุ่นรู้ตัวก่อน อาศัยความชำนาญพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ จึงได้ตัวได้แค่ 3 คนเท่านั้น แต่ยึดรถจักรยานยนต์ไว้ได้ถึง 9 คัน โดยจะเรียกเจ้าของรถจักรยานยนต์มาสอบสวนด้วย ส่วนผู้ต้องหา 3 คน ส่งไปดำเนินคดีต่อไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย