ทำเนียบฯ 8 เม.ย.-เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ย้ำ ไทย-สหรัฐฯ พร้อมร่วมมือ และให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19
นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับหน้าที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีต้อนรับเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ซึ่งมั่นใจว่าเอกอัครราชทูตฯ จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนามิตรภาพไทย-สหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นเหมือนเช่นที่เป็นมาตลอดกว่า 180 ปี พร้อมกันนี้ ยังฝากความปรารถนาดี และความห่วงใยไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และภริยา โดยให้กำลังใจในการบริหารประเทศเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นในเร็ววัน
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณ นายกรัฐมนตรีที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมคารวะแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของประเทศไทย และหลาย ๆประเทศในโลก จึงขอสนับสนุนและชื่นชมมาตรการของรัฐบาลไทย ที่ส่งผลให้มีแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นแนวราบ ทั้งนี้ ยังขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลผู้อาศัยอยู่ในประเทศไทยให้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสองฝ่ายต่างชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน ทั้งทางด้านความมั่นคง เป็นสาขาที่มีความร่วมมือกันมาอย่างยาวนานและแนบแน่น และด้านการสาธารณสุข เป็นสาขาความร่วมมือสำคัญที่พัฒนามายาวนานหลายทศวรรษ โดยสหรัฐฯ มีศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ (CDC) มีสำนักงานนอกสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือในทุกด้าน
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ได้มอบอุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล (PPE) ให้ประเทศไทย รวมทั้งขอให้กำลังใจซึ่งกันและกันในช่วงเวลาของความท้าทายนี้ ทั้งนี้ ขอให้คำนึงถึงไม่เพียงแต่ความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯ แต่เป็นความร่วมมือกับทุกประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับนโยบายเชิงรุกเพื่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลาย โดยนายกรัฐมนตรีขอให้มองความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไทยที่ยังมีโอกาสในความร่วมมือระหว่างกันอีกมาก เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า ตั้งใจจะทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจร่วมกันให้มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย