นนทบุรี 7 เม.ย. – พาณิชย์จับกุมหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงเพิ่ม 2 ราย จำหน่ายผ่านแอปฯ 1 ราย และร้านค้าทั่วไป 1 ร้าน ยอดรวมจับกุม 267 ราย
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ได้อีก 2 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 1 ราย เป็นการจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าทางแอปฯ 1 ราย ในเขตประเวศ กรุงเทพฯ จำหน่ายหน้ากากอนามัย กล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท โดยเป็นสินค้านำเข้าจากจีน มีปริมาณ 5,500 ชิ้น และไม่ได้แจ้งปริมาณ ราคาจำหน่ายต่อคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จึงได้แจ้งข้อหาตาม มาตรา 25 (5) ไม่แจ้งราคาต้นทุนการซื้อขาย และสตอก และข้อหาตามมาตรา 29 ค้ากำไรเกินควร
ส่วนต่างจังหวัดจับกุมได้ 1 ราย เป็นการกระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร (มาตรา 29) อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยทำการล่อซื้อจับกุมร้านค้า พบจำหน่ายกล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท แจ้งข้อหาตามมาตรา 29 ค้ากำไรเกินควร ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเป็น 267 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 132 ราย และต่างจังหวัด 135 ราย
สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) และมาตรา 25 (5) ไม่แจ้งต้นทุนซื้อ ขาย สตอก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม ทำให้มียอดรวมการจับกุมทั่วประเทศอยู่ที่ 26 รายคงเดิม เพราะขณะนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งการผลิต การกระจายไข่ไก่ และการจำหน่าย.-สำนักข่าวไทย