กลุ่ม ปตท. สู้โควิด -19 เพื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – กลุ่ม ปตท. กับภารกิจสู้โควิด -19 เพื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน



นายชาญศิลป์  ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)  เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่ม ปตท. มีภารกิจสำคัญในการดูแลความมั่นคงทางพลังงาน โดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤติให้ไม่ขาดแคลน ทั้งภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง  โดยมีการเตรียมพร้อมปฏิบัติตามแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) เพื่อป้องกันการหยุดชะงักทางธุรกิจและไม่ทำให้ประชาชนผู้ใช้พลังงาน รวมถึงคู่ค้าลูกค้า ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว  


กลุ่ม ปตท. ยังขยายภารกิจเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน ในช่วงภาวะวิกฤติ ดังนี้   

1) การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ผ่านการลดราคาขายปลีกเอ็นจีวี (NGV) ให้กับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะที่มีบัตรส่วนลดในอัตรา 3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น) เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 คิดเป็นมูลค่าที่ ปตท. ช่วยสนับสนุนกว่า 600 ล้านบาท และคงราคา NGV สำหรับรถทั่วไปไว้ที่ 15.31 บาท/กก.ตั้งแต่ 16 มีนาคม – 15 สิงหาคม 2563 


2) การช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขของประชาชน ผู้บริหารและพนักงานของกลุ่ม ปตท.ร่วมกันบริจาคโลหิต จำนวน 115,300 ซีซี  ตลอดเดือนมีนาคมมอบให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทยและศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า 

ทั้งนี้ ปตท.จัดหาแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ประมาณ 150,000 ลิตร ให้แก่หน่วยงานทางการแพทย์ หลังจากภาครัฐผ่อนผันมาตรการฯ ปตท. จึงสามารถจัดหาจากโรงผลิตแอลกอฮอล์ต้นทางได้ทันที โดยร่วมกับองค์การเภสัชกรรมปรับคุณภาพสำหรับใช้งานทางการแพทย์ และจัดหาเองส่วนหนึ่งส่งมอบให้โรงพยาบาลภายใต้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐ อาทิ วิทยาลัยแพทย์และกองทัพต่างๆ เพื่อกระจายให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศต่อไป

บริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนโรงพยาบาลรามาธิบดีในการจัดซื้อแท็บเล็ต 50 เครื่องเพื่อการตรวจรักษาทางไกล (Tele-Medicine)  และเป็นอุปกรณ์ประกอบการดูแลรักษาผู้ป่วยในหอผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ส่งมอบหน้ากากอนามัยจากผ้า จำนวน 10,000 ชิ้นดูแลผู้สูงอายุ ดำเนินการโดยชมรมพลังไทยใจอาสา กลุ่ม ปตท. มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน และชุมชนเครือข่าย เพื่อมอบให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปกระจายแก่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

นอกจากนั้น บริษัทต่างๆ ในกลุ่ม ปตท. ยังให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ประกอบด้วย

– บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าจำนวน 3,500 ชิ้น แก่สำนักงานเขตจตุจักร เพื่อแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ และมอบแอลกอฮอล์จำนวน 5,000 ลิตร ให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำไปผลิตแอลกอฮอล์เจลสำล้างมือเพื่อแจกจ่ายประชาชน รวมถึงสนับสนุนสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลต่าง ๆ พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่ เช่น ชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงโควิด-19 (Strip test) ชุดตรวจวินิจฉัยไวรัสโควิด-19  เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ รวมทั้ง รถพยาบาลและเครื่องช่วยหายใจ 

– บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  ปรับลดราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ลง 45 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป และร่วมสนับสนุนโรงพยาบาลราชวิถี สำหรับซื้ออุปกรณ์การแพทย์สู้ภัย COVID-19 รวมถึงมีการแจกเจลแอลกอฮอล์ในสถานีบริการฯ พร้อมน้ำดื่มขวดให้กับผู้ขับขี่จักรยานยนต์และบริการรับส่งอาหาร  

– บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเสื้อกาวน์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Gown) ซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติก InnoPlus ป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 91,000 ชุด โดยทยอยมอบแล้วจำนวน 71,000 ชุด แก่ 61 โรงพยาบาล 24 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อม สนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์ของ วชิรพยาบาลผลิตหมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) และชุดอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ (Protective Suit) สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 ระยะรุนแรงในห้องผ่าตัด ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ใช้ต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 500 ชุด ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อส่งมอบให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศต่อไป

– บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนแอลกอฮอล์จำนวน 3,000 ลิตร แก่กระทรวงพลังงาน เพื่อนำไปใช้สนับสนุนงานด้านสาธารณสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก และเจลล้างมือจำนวนให้โรงพยาบาลต่างๆ พร้อมระดมจิตอาสาทำ  Face shield จำนวน 5000 ชิ้น มอบสาธารณสุขจังหวัดเพื่อนำไปให้ โรงพยาบาลที่ขาดแคลน และส่งมอบเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน จำนวน 10 เครื่อง แก่ 5 โรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี

– บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มอบผ้าสบันบอนด์แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อใช้สำหรับตัดชุด PPE ของบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 10,000 ชุด และมอบแอลกอฮอล์ล้างมือ จำนวน 120 ลิตร แก่โรงพยาบาลระยอง และสำนักงานที่ดิน

– บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ให้แก่ VISTEC รวมถึงร่วมบริจาคหน้ากาก Face Shield จำนวน 1,000อัน พร้อมชุด PPE จำนวน 500 ชุด และหน้ากาก  N95 จำนวน 1,000 อัน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและและสาธารณสุขจังหวัดระยอง  และหน้ากากอนามัยแบบผ้า จำนวน 2,000 ชิ้นให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รอบพื้นที่โรงคัดแยกขยะเพื่อแปลงเป็นพลังงานเชื้อเพลิง จ.ระยอง พร้อมทั้งบริจาคผ้าเพื่อตัดเย็บเพื่อนำไปตัดชุดอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล  PPE จำนวน 900 ชุด ให้แก่โรงพยาบาลปัตตานี

 “กลุ่ม ปตท. มีนโยบายร่วมกันทำงานในภารกิจสู้ภัยโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยแต่ละบริษัทได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมออกแบบและเตรียมการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความจำเป็นในทางการแพทย์  นับเป็นภารกิจสำคัญที่เร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน สู้ภัย โควิด-19 ครั้งนี้ ไปด้วยกัน” นายชาญศิลป์ฯ  กล่าวทิ้งท้าย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]