กลุ่ม ปตท. สู้โควิด -19 เพื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – กลุ่ม ปตท. กับภารกิจสู้โควิด -19 เพื่อบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน



นายชาญศิลป์  ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)  เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่ม ปตท. มีภารกิจสำคัญในการดูแลความมั่นคงทางพลังงาน โดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤติให้ไม่ขาดแคลน ทั้งภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง  โดยมีการเตรียมพร้อมปฏิบัติตามแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) เพื่อป้องกันการหยุดชะงักทางธุรกิจและไม่ทำให้ประชาชนผู้ใช้พลังงาน รวมถึงคู่ค้าลูกค้า ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว  


กลุ่ม ปตท. ยังขยายภารกิจเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน ในช่วงภาวะวิกฤติ ดังนี้   

1) การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ผ่านการลดราคาขายปลีกเอ็นจีวี (NGV) ให้กับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะที่มีบัตรส่วนลดในอัตรา 3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น) เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 คิดเป็นมูลค่าที่ ปตท. ช่วยสนับสนุนกว่า 600 ล้านบาท และคงราคา NGV สำหรับรถทั่วไปไว้ที่ 15.31 บาท/กก.ตั้งแต่ 16 มีนาคม – 15 สิงหาคม 2563 


2) การช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขของประชาชน ผู้บริหารและพนักงานของกลุ่ม ปตท.ร่วมกันบริจาคโลหิต จำนวน 115,300 ซีซี  ตลอดเดือนมีนาคมมอบให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทยและศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า 

ทั้งนี้ ปตท.จัดหาแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ประมาณ 150,000 ลิตร ให้แก่หน่วยงานทางการแพทย์ หลังจากภาครัฐผ่อนผันมาตรการฯ ปตท. จึงสามารถจัดหาจากโรงผลิตแอลกอฮอล์ต้นทางได้ทันที โดยร่วมกับองค์การเภสัชกรรมปรับคุณภาพสำหรับใช้งานทางการแพทย์ และจัดหาเองส่วนหนึ่งส่งมอบให้โรงพยาบาลภายใต้กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐ อาทิ วิทยาลัยแพทย์และกองทัพต่างๆ เพื่อกระจายให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศต่อไป

บริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนโรงพยาบาลรามาธิบดีในการจัดซื้อแท็บเล็ต 50 เครื่องเพื่อการตรวจรักษาทางไกล (Tele-Medicine)  และเป็นอุปกรณ์ประกอบการดูแลรักษาผู้ป่วยในหอผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ส่งมอบหน้ากากอนามัยจากผ้า จำนวน 10,000 ชิ้นดูแลผู้สูงอายุ ดำเนินการโดยชมรมพลังไทยใจอาสา กลุ่ม ปตท. มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน และชุมชนเครือข่าย เพื่อมอบให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปกระจายแก่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

นอกจากนั้น บริษัทต่างๆ ในกลุ่ม ปตท. ยังให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ประกอบด้วย

– บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มอบหน้ากากอนามัยแบบผ้าจำนวน 3,500 ชิ้น แก่สำนักงานเขตจตุจักร เพื่อแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ และมอบแอลกอฮอล์จำนวน 5,000 ลิตร ให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำไปผลิตแอลกอฮอล์เจลสำล้างมือเพื่อแจกจ่ายประชาชน รวมถึงสนับสนุนสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลต่าง ๆ พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ที่ เช่น ชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงโควิด-19 (Strip test) ชุดตรวจวินิจฉัยไวรัสโควิด-19  เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ รวมทั้ง รถพยาบาลและเครื่องช่วยหายใจ 

– บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  ปรับลดราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ลง 45 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป และร่วมสนับสนุนโรงพยาบาลราชวิถี สำหรับซื้ออุปกรณ์การแพทย์สู้ภัย COVID-19 รวมถึงมีการแจกเจลแอลกอฮอล์ในสถานีบริการฯ พร้อมน้ำดื่มขวดให้กับผู้ขับขี่จักรยานยนต์และบริการรับส่งอาหาร  

– บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเสื้อกาวน์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Gown) ซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติก InnoPlus ป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 91,000 ชุด โดยทยอยมอบแล้วจำนวน 71,000 ชุด แก่ 61 โรงพยาบาล 24 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อม สนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์ของ วชิรพยาบาลผลิตหมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR (Powered Air-Purifying Respirator) และชุดอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ (Protective Suit) สำหรับการป้องกันการติดเชื้อ โควิด-19 ระยะรุนแรงในห้องผ่าตัด ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ใช้ต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 500 ชุด ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อส่งมอบให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศต่อไป

– บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนแอลกอฮอล์จำนวน 3,000 ลิตร แก่กระทรวงพลังงาน เพื่อนำไปใช้สนับสนุนงานด้านสาธารณสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นจำนวนมาก และเจลล้างมือจำนวนให้โรงพยาบาลต่างๆ พร้อมระดมจิตอาสาทำ  Face shield จำนวน 5000 ชิ้น มอบสาธารณสุขจังหวัดเพื่อนำไปให้ โรงพยาบาลที่ขาดแคลน และส่งมอบเครื่องให้อากาศผสมออกซิเจน จำนวน 10 เครื่อง แก่ 5 โรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี

– บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มอบผ้าสบันบอนด์แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อใช้สำหรับตัดชุด PPE ของบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 10,000 ชุด และมอบแอลกอฮอล์ล้างมือ จำนวน 120 ลิตร แก่โรงพยาบาลระยอง และสำนักงานที่ดิน

– บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ให้แก่ VISTEC รวมถึงร่วมบริจาคหน้ากาก Face Shield จำนวน 1,000อัน พร้อมชุด PPE จำนวน 500 ชุด และหน้ากาก  N95 จำนวน 1,000 อัน ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและและสาธารณสุขจังหวัดระยอง  และหน้ากากอนามัยแบบผ้า จำนวน 2,000 ชิ้นให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รอบพื้นที่โรงคัดแยกขยะเพื่อแปลงเป็นพลังงานเชื้อเพลิง จ.ระยอง พร้อมทั้งบริจาคผ้าเพื่อตัดเย็บเพื่อนำไปตัดชุดอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล  PPE จำนวน 900 ชุด ให้แก่โรงพยาบาลปัตตานี

 “กลุ่ม ปตท. มีนโยบายร่วมกันทำงานในภารกิจสู้ภัยโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยแต่ละบริษัทได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมออกแบบและเตรียมการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความจำเป็นในทางการแพทย์  นับเป็นภารกิจสำคัญที่เร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชน สู้ภัย โควิด-19 ครั้งนี้ ไปด้วยกัน” นายชาญศิลป์ฯ  กล่าวทิ้งท้าย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]