จับตานายกฯ เตรียมประกาศเคอร์ฟิว

ทำเนียบฯ 2 เม.ย.-ศบค.เผยผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเป็น 15 ราย ยอดผู้ป่วยเพิ่ม 104 ราย สั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ 2-15 เม.ย.นี้ จับตา นายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 22.00-04.00 น. หรือไม่ ด้าน กระทรวงต่างประเทศ เผยได้ประสาน  AFS International อย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักเรียนเดินทางกลับประเทศอย่างเป็นระบบ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้ (2 เม.ย.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 104 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,875 ราย รักษาหาย 505 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวม 15 คน โดยผู้เสียชีวิตล่าสุด รายที่ 13 เป็นชายไทยอายุ 57 ปี มีประวัติการเดินทางไปประเทศปากีสถานและเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ 29 มีนาคมที่ผ่านมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ และกำลังเดินทางกลับสุไหงโก-ลกโดยรถไฟเมื่อวันที่ 30 มีนาคม และพบเสียชีวิตบนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ช่วงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม จากการตรวจสอบ พบมีอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีประวัติป่วยเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บนรถไฟจำนวน 15 คน จะต้องมีการกักตัว 

ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 14 เป็นชายไทยอายุ 77 ปี มีประวัติเป็นโรคถุงลมโป่งพองและโรคเบาหวาน และได้สัมผัสกับผู้ป่วยไวรัสโควิด-19  มีอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอและเจ็บคอ ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลปัตตานีแล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา และผู้เสียชีวิตรายที่ 15 เป็นชายไทยอายุ 55 ปี อาชีพขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ และได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์และกลับมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม มีอาการไข้ ไอแห้ง อ่อนเพลีย ไม่มีน้ำมูก และมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายน


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 104 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สัมผัสกลุ่มผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ทั้งจากสนามมวย สถานบันเทิง และผู้ที่ร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงเป็นผู้ที่เดินทาง หรือสัมผัสใกล้ชิด กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ขณะที่ผู้ป่วยสะสม 1,875 คนนั้น อยู่ที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับที่หนึ่ง จำนวน 895 คน รองลงมาคือ นนทบุรี 110 คน ภูเก็ต 88 คน สมุทรปราการ 82 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้ให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ โดยเฉพาะจากต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งออกมาตรการเพื่อชะลอการเดินทางของคนต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยให้ดำเนินการตั้งแต่ วันนี้ จนถึงวันที่ 15 เม.ย. นี้ ยกเว้นกรณีที่มีการขออนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยจัดหาหน้ากากอนามัยให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่มีความสุ่มเสี่ยง ในการดูแลประชาชนจำนวน 1 ล้านชิ้นต่อวันและให้ส่งต่อเนื่องทุกวัน 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ได้ส่งมอบชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีการตรวจที่เป็นมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก สำหรับการหาเชื้อไวรัสนี้ในสภาวะการณ์ปัจจุบัน จำนวน 2 หมื่นชุด และจะส่งมอบอีก 20,000 ชุดในทุก ๆ สัปดาห์ ให้ครบ 1 แสนชุดในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะมีการกระจายให้ใช้ฟรีตามโรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องตรวจทั่วประเทศเกือบ 100 แห่ง


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรคได้ทำการสำรวจความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตัวเอง พบว่ามีประชาชนใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า ร้อยละ 94.03 ล้างมือบ่อย ๆ ร้อยละ 90.47 ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ร้อยละ 85.33 และรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ร้อยละ 64.81  

ขณะที่การสำรวจการสัญจรของประชาชน พบว่าการเดินทางในวันธรรมดาลดลง เพียงแค่ร้อยละ 20 จึงต้องขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ให้พิจารณาปรับปรุงการทำงาน เพื่อลดการเดินทางและลดความแออัดในที่ทำงานด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาจากปากีสถาน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การขอเดินทางมาไทยต้องขออนุญาตตั้งแต่ต้นทาง ต้องมีการดูแลตัวเอง 14 วันก่อนเดินทาง มีใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้นเครื่อง และต้องไม่มีไข้ โดยจะมีการตรวจทุกสนามบิน ซึ่งหากมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องอยู่ที่บ้าน 14 วัน แต่ปรากฎว่ามีข้อหละหลวมมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการไม่ให้ความร่วมมือ จึงเป็นที่มาของมาตรการชะลอการเดินทางเข้าไทย เพื่อลดการสูญเสียและเจ็บป่วย

สำหรับกรณีนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ที่จะเดินทางกลับไทยนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงคนไทยทุกคน ซึ่งนักเรียน AFS ก็ขอให้ผู้ปกครองติดต่อได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตของแต่ละประเทศ ขอให้เลื่อนการเดินทางช้าหน่อย เพื่อความปลอดภัย หากเดินทางกลับมาก็ต้องมีการกักตัว และระหว่างเดินทางอาจจะติดเชื้อบนเครื่องบินก็เป็นได้ ดังนั้น ก็ขอให้นิ่งไว้ก่อน หากสถานการณ์ดีขึ้น การเดินทางค่อยเกิดขึ้นก็ได้ ขอให้ชะลอการเดินทางตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีไปก่อน

นพ.ทวีศิลป์  กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี เห็นภาพบุคลากรทางการแพทย์สวมเสื้อกันฝนเข้าห้องผ่าตัดจึงเป็นห่วงอย่างมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้คาดการณ์ว่า ต้องใช้หน้ากาก N 95 เท่าไหร่ โดยนายกรัฐมนตรีตั้งตัวเลขให้มี 60,000 ชุดต่อวัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกคน แต่ทั่วโลกก็ต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เหมือนกันทั้งหมด ขณะที่ผู้ผลิตกลับมีน้อยลงทุกวัน อย่างเช่น 3M ก็ไม่ได้ส่งของให้ เพราะน่าจะมีประเด็นที่ต้องแบ่งให้ทางอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ ขณะที่จีนก็ผลิตให้ไม่ทัน ซึ่งเบื้องต้นได้คำสั่งซื้อไปที่จีนถึง 2 ล้านชิ้น โดยบางส่วนจากจีนก็ส่งให้แล้ว 

ยาที่ใช้สำหรับการรักษามีอยู่ 50,000 กว่าเม็ด และได้สั่งจากญี่ปุ่น 40,000 เม็ด ล่าสุดเข้ามาถึงไทยแล้ว และเตรียมสั่งจากจีนอีก 100,000 เม็ด โดยนายกรัฐมนตรีซักถามอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนได้รับการดูแลจากแพทย์ และแพทย์ได้รับการดูแลจากผู้บริหาร ซึ่งการขาดแคลนนั้น ขาดแคลนกันทั่วโลก แม้แต่สหรัฐอเมริกายังต้องร้องขออุปกรณ์ทางการแพทย์จากจีน 

ส่วนกระแสข่าวเตรียมประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 22.00- 04.00 น.นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  วันนี้ (2 เม.ย.) ขอให้ทุกคนคอยติดตามที่หน้าจอโทรทัศน์ไว้ เพราะนายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนทุกคน ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพูดถึงมาตรการจากเบาไปหาหนักมาตลอด จึงขอให้ติดตามเวลาที่จะมีการประกาศอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนรับทราบและผนึกเป็นหนึ่งเพื่อร่วมมือกัน โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กล่าวด้วยตัวเอง

ด้านนายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตัวเลขคนเดินทางเข้าประเทศไทย ที่ได้บันทึกไว้ จากด่านตม.ภูเก็ต ดูได้วันที่ 26-30 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มีแบ่งเป็นผู้โดยสารคนไทยและต่างชาติ รวมถึงลูกเรือ จะเห็นได้ว่าจำนวน 800-900 คน ซึ่งไม่ได้มากนัก ส่วนการเดินทาง เข้า-ออก ราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 23-31 มีนาคม มีตัวเลขที่ลดลงเรื่อย ๆ ความเคลื่อนไหวลดลงตามลำดับ และถือว่าเป็นลบในเดือนมีนาคม จึงสรุปได้ว่า ไม่มีคนเข้าประเทศไทยมากตามที่มีกระแสข่าวและไม่ได้มากจนน่ากังวล  แต่มีความตั้งใจที่จะทำให้น้อยลงกว่านี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการลดการแพร่การระบาดของโรคระบาดโควิด-19

นายณัฐภาณุ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องการต่างประเทศ วันนี้ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ได้รับทราบและมีมติให้ทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องชะลอเดินทางเข้าไทยถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่วนกลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS กระทรวงจะประสาน AFS  International อย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักเรียนเดินทางกลับประเทศอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย