สธ.2เม.ย.-สธ.ร่วมเอกชนจัด HOSPITEL รับผู้ป่วยโควิด-19 แบ่งเบาภาระ โรงพยาบาล ขณะนี้ได้ห้องรวมแล้ว 800 ห้อง ขณะที่มีผู้ป่วยเข้าพักรักษาแล้ว 60 คน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ร่วมแถลงข่าวเตรียมพร้อมเปลี่ยนโรงแรมเป็น Hospitel เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ช่วยลดแออัดโรงพยาบาล ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและโรงแรมภาคเอกชน
นายสาธิต กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนการจัดการเตียงรองรับผู้ป่วย โดย hospitel เน้นรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ของผู้ป่วยโควิด-19 มีมากถึงร้อยละ 80 โดยจะขอความร่วมมือจากทุกโรงพยาบาล ในการทำงานร่วมกัน โดยครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการโรงแรม 2 แห่ง ในการจัดการบริหารเตียงคนไข้ ในลักษณะของ Hospitel คือ โรงแรมปริ๊นซ์ตัน มีจำนวน 200 ห้องพัก ขณะนี้รองรับผู้ป่วยแล้วจำนวน 50 คนและเตรียมเข้าพักเพิ่มอีกประมาณ 10 คน ส่วนโรงแรมเดอะพาลาสโซและโรงแรมในเครือ มีห้องพัก 439 ห้อง
ส่วนภาพรวมขณะนี้ มีจำนวนห้องพักของโรงแรมต่างๆ ที่มาเข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมีประมาณ 800 ห้อง พร้อมรองรับผู้ติดเชื้อได้ ถึงประมาณเดือนพฤษภาคม จะรองรับผู้ป่วยใน 2 กรณี คือกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าคนไข้เข้าข่ายการกักตัวเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องเข้ากักตัวสังเกตอาการ จำนวน 14 วัน ส่วนอีกกลุ่ม คือผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแม้ว่า แพทย์ยังไม่วินิจฉัยว่าต้องกักตัว ก็สามารถเข้ากักตัวเองตามสถานพยาบาลที่เข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสังเกตอาการได้
พร้อมกันนี้ยังกล่าวขอความกรุณาให้สังคมเข้าใจในสถานการณ์ ที่มีความจำเป็นต้องมีสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อ จึงขอให้ชุมชนรอบข้างเข้าใจและยอมรับการอยู่ร่วมกันให้ได้
ด้านอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสถานประกอบการ ที่จะเข้าร่วมเป็น Hospitel ว่า ต้องมีจำนวนห้องพักไม่น้อยกว่า 30 ห้องขึ้นไป มีใบอนุญาตถูกต้อง มีโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆที่พร้อมสะดวกในการสนับสนุนภารกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของสุขอนามัย ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข จะพิจารณาค่าตอบแทนให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมตามหลักการเบิกจ่ายของภาครัฐ ตัวเลขแม้ว่าจะน้อยนิด และเทียบไม่ได้กับค่าโรงแรมที่ได้รับมา แต่ถือว่าเวลานี้กลุ่มคนเหล่านี้คือผู้เสียสละเพื่อสังคม จึงอยากให้ชื่นชมในความเสียสละ
ขณะที่อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึง หลักเกณฑ์พิจารณา ผู้ป่วยที่จะเข้าสังเกตอาการที่ Hospitel ต้องผ่านการนอนรักษาที่โรงพยาบาลหลักมาแล้วอย่างน้อย 1 อาทิตย์ และต้องไม่มีอาการไข้แล้ว ต้องมีการประเมินสภาพจิต และหากมีโรคประจำตัว ต้องมียารักษาโรคมาให้พร้อม และสุดท้ายหากคนไข้มีอาการทรุดลง ทางโรงพยาบาลหลักต้องยินดีที่จะรับตัวกลับไปรักษาเช่นเดิม
นอกจากนี้ยังจัดเตรียมทีมแพทย์พยาบาลในการดูแลคนไข้ โรงแรมละ 3-5 คน มาดูแลโดยจะดูแลผ่านกล้องซีซีทีวีที่มีการเชื่อต่อและเห็นความเคลื่อนไหวทุกห้อง และในห้องพักจัดเตรียมอุปกรณ์วัดไข้ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเอ็กซเรย์ปอดเพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาดูแลคนไข้อีกด้วย ยืนยันมีมาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกแห่ง.-สำนักข่าวไทย