กทม. 1 เม.ย. – วันนี้ครบ 7 วัน ที่นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ ศบค.จะพอใจระดับหนึ่ง แต่พบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น
กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่งทะยาน แม้จะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดมาแล้ว 7 วัน โดยสาระสำคัญคือ ไม่ต้องการให้ประชาชนเคลื่อนย้ายไปในพื้นที่เสี่ยง หรือออกจากบ้านเพื่อรับ หรือแพร่เชื้อ แ
เมื่อดูจากสถิติผู้ป่วยรายใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย จากสนามมวย สถานบันเทิง สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย (รุ่นที่ 2 และ 3) เป็นตัวเลขที่เกิดการกระจายไปได้อีก
กลุ่มที่ 2 เดินทางกลับจากต่างประเทศ
และกลุ่มที่ 3 รอสอบสวนโรค
การกระจายตัวของผู้ป่วยยังกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งคนในกรุงเทพฯ มีความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ 2-3 เท่าตัว ทำให้ล่าสุดวันนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ต้องออกประกาศกำหนดเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ปิดตั้งแต่ 00.00-05.00 น. เพื่อให้ทุกแห่งได้ทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด รวมถึงสั่งปิดสวนสาธารณะทั้งหมดใน กทม. ครอบคลุมถึงสวนในหมู่บ้านและคอนโดฯ
ขณะที่ 6 จังหวัดออกมาตรการเข้มข้นขึ้น หลังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่น สระแก้ว ตาก ยะลา ปัตตานี นราธิวาสภูเก็ต ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออกข้ามเขตจังหวัด และอีกหลายจังหวัดใช้มาตรการกำหนดเวลาห้ามเข้า-ออกนอกเคหสถาน เช่น นนทบุรี สมุทรปราการ แม่ฮ่องสอน
สำหรับการรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดการติดเชื้อ โฆษก ศบค. ย้ำแม้อยู่ในบ้าน แต่ทุกคนควรรักษาการเว้นระยะห่างทางสังคม
ส่วนภาพรวมพบหลายพื้นทียังมีการนัดสังสรรค์รวมกลุ่มจัดปาร์ตี้ แม้สถานบันเทิงถูกสั่งปิดชั่วคราว สำนักงานตำรรวจแห่งชาติประกาศชัดจะดำเนินขั้นเด็ดขาด
การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงดำเนินต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมปรับใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก และให้อำนาจผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดตัดสินใจเพิ่มความเข้มข้นสกัดโควิด-19 . – สำนักข่าวไทย