กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – กระทรวงเกษตรฯ ครบรอบปีที่ 128 มุ่งพัฒนาภาคเกษตรอย่างยั่งยืน ย้ำปี 63 มีวิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร กำหนดแผนปฏิบัติการช่วยเหลือ ทั้งระหว่างโรคแพร่ระบาด ตลอดจนการฟื้นฟูทั้งระบบ หลังสถานการณ์โรคสงบเพื่อเยียวยาเกษตรกร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 เมษายน โดยปีนี้ครบรอบ 128 ปี รมว.เกษตรฯ พร้อมด้วยนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้บริหารสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า รัฐบาลมียุทธศาสตร์ด้านการเกษตรตามแผนยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ระยะ 20 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ให้เกษตรกรหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง สถาบันเกษตรกรมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และสินค้าเกษตรมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งกระทรวงเกษตรได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการภาคการเกษตรให้สอดคล้องกัน ได้แก่ การปรับปรุงกฎระเบียบด้านการเกษตรให้ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ การพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmer การสร้างภูมิต้านทานของเมืองบนฐานแนวคิดเกษตรและพืชสวน นำไปสู่เมืองแห่ง Green-city ส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การประกันราคาสินค้าเกษตร ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าเกษตรผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและที่ดินทำกินของเกษตรกร
สำหรับปี 2563 นโยบายสำคัญ คือ แนวทางการตลาดนำการผลิต การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ การบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ การส่งเสริมเกษตรปลอดภัย การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิต การบริหารจัดการการประมงอย่างยั่งยืน การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีการเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด การจัดทำศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ การจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาวิกฤติภัยแล้งระดับชาติ เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์และช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศ ขณะนี้เกิดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบทุกด้าน จึงเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดหาแนวทางและมาตรการช่วยเหลือหรือบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร รวมถึงประชาชนทั้งประเทศ และเมื่อสถานการณ์โรคคลี่คลายจะฟื้นฟูภาคการเกษตรทั้งระบบ เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการต่อเนื่องภาคเกษตรฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด
จากนั้น รมว.เกษตรฯ เป็นประธานพิธีมอบหน้ากากอนามัยให้แก่ปลัดกระทรวงฯ เพื่อแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยย้ำว่าภาวะเช่นนี้ข้าราชการยิ่งต้องอุทิศตนช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชน ดังนั้น จึงต้องดูแลตนเองให้สุขภาพแข็งแรงและรักษาสุขอนามัยตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย