fbpx

ซีไอเอ็มบีไทย หั่นคาดการณ์จีดีพีปี 63 หดตัว 6.4%

กรุงเทพ ฯ 31 มี.ค. – ซีไอเอ็มบีไทย หั่นคาดการณ์จีดีพีปี 63 หดตัว 6.4% จากเดิมคาดโต 1.7% รับผลโควิด-19 พร้อมแนะทางรอดก่อนเศรษฐกิจทรุดเข้าเฟส 4


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารแ (CIMBT) กล่าวว่า สำนักวิจัยฯ ปรับมุมมองทางเศรษฐกิจไทย จากเดิมขยายตัว 1.7% เป็นหดตัว 6.4% ตามภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/63 และน่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง แต่หากสถานการณ์เลวร้ายไปอีก เศรษฐกิจไทยคงเข้าสู่ภาวะวิกฤตตามเศรษฐกิจโลก เพราะมีความเสี่ยงเติบโตช้าจากปัญหาสงครามการค้า ภัยแล้ง และงบประมาณล่าช้า ก่อนจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นายอมรเทพ กล่าวว่า การระบาดทางเศรษฐกิจถือว่าเข้าสู่เฟส 3 เรียบร้อยแล้ว ประเทศไทยจะต้องเร่งยับยั้งก่อนเศรษฐกิจไทยเข้าสู่เฟส 4 เพราะคาดว่าหากปัญหาไวรัสระบาดลากยาว เศรษฐกิจจะทรุดหนักจนเกิดวิกฤติขึ้นมา ซึ่งจะเกิดผ่านปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ กลุ่มภาคธุรกิจที่มีปัญหาหนี้สูงและเป็นกลุ่มที่อันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับน่าลงทุน จะเป็นกลุ่มที่อาจผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้เกิดปัญหาความเชื่อมั่นต่อระบบตลาดเงินและตลาดทุน จนเกิดการลามไปสู่การไถ่ถอนตราสารหนี้ เช่น หุ้นกู้บริษัทเอกชน ในกลุ่มที่มีความน่าเชื่อถือดีหรือไม่ได้รับปัญหาทางเศรษฐกิจมากจนบริษัทไม่มีเงินชำระหนี้  และในภาวะที่ทุกคนเทขายสินทรัพย์ต่างๆ จากความกังวลว่าธุรกิจจะไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ ราคาสินทรัพย์อื่น เช่น ที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ นาฬิกาหรูและสินค้าฟุ่มเฟือยราคาสูงอื่นๆ อาจมีราคาลดลงได้ เกิดผลด้านจิตวิทยาต่อผู้บริโภคผ่านความมั่งคั่ง หรือ wealth effect ที่เมื่อคนรู้สึกว่าตัวเองจนลง ก็จะลดการบริโภคหรืออุปโภคสินค้าตามมา ฉุดให้เศรษฐกิจดำดิ่งจนเกิดการว่างงานสูงและอาจลากยาวจนเศรษฐกิจถดถอยไปได้ราว 1 ปีหรือ 2 ปี ซึ่งภาวะนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นเฟสที่ 4 ที่เศรษฐกิจไทยอาจหดตัวได้มากกว่า 11% ในปีนี้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด และอาจเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายที่สุดที่เราเคยเผชิญ อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีทางออกในการยืดเวลาของเฟส 3 และให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในปีหน้า ช่วยให้พ้นวิกฤตินี้ไปได้ หรืออาจฟื้นได้เร็ว โดยอาจหดตัวเพียง 2.2% ในกรณีที่ดีที่สุดในปีนี้ ซึ่งอาจจะเจ็บในระยะสั้นแต่จะจบไวและฟื้นเร็ว 


สำนักวิจัยฯ มีความเห็น 3 ประการเพื่อยื้อเวลาให้ประคองตัวได้หรืออาจพลิกกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในครึ่งปีหลังดังนี้ 

1.นโยบายการเงินต้องผ่อนปรนและคิดนอกกรอบ คนจำนวนมากยังมีภาระหนี้สินอยู่ ซึ่งมาตรการของ ธปท.ในการดูแลให้คนยังมีความสามารถในการชำระหนี้ เช่น ลดยอดการชำระหรือยืดเวลาการชำระหรือให้ชำระเพียงดอกเบี้ยได้ชั่วคราวนับเป็นก้าวที่ดีในการประคองภาคเอกชน แต่อาจต้องพิจารณาว่าปัญหาทางเศรษฐกิจจะไม่ลากยาวและลูกหนี้สามารถฟื้นได้เร็วเมื่อหมดโครงการนี้ ไม่เช่นนั้น ยอดหนี้เสียจะพุ่งได้ในอนาคต และอีกด้านที่น่าสนใจคือการอัดฉีดสภาพคล่องให้ภาคธุรกิจผ่านการซื้อสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ตราสารหนี้ หรือ หุ้นกู้เอกชน และอาจเป็นการซื้อตรงหรือผ่านตลาดรองเพื่อลดความผันผวนด้านราคาและเพื่อให้ธุรกิจมีกระแสเงินสดอยู่รอดได้ 


 2.นโยบายการคลังต้องรวดเร็วและทั่วถึง นอกเหนือจากให้เงิน 5,000 บาทต่อคนในช่วง 3 เดือนนี้ หรืออาจคิดมาตรการจ้างงาน หรือเป็นการซื้อหาอาหารหรือสินค้าที่จำเป็นแจกเองผ่านหน่วยงานของรัฐหรือชุมชน นอกจากนี้ รัฐบาลอาจใช้โอกาสนี้ดึงคนกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเข้ามาใช้เงินด้วยการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ใช่เพียงเพิ่มลดหย่อน และอาจทำชั่วคราวในปีนี้ รวมถึงอาจเสริมด้วยการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 

 3.ต้องเรียนรู้ปรับตัว หากไม่มีงานในเมืองก็ต้องสร้างงานในชุมชน หรือสร้างตลาดสินค้าและรายได้ในพื้นที่ต่างๆ เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และยืดหยุ่นคล่องตัวพอจะปรับเปลี่ยนงานได้เสมอ อีกทั้งได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีมากขึ้นในการทำงานหรือเรียนหนังสือผ่านโปรแกรมต่างๆ ซึ่งหากเราพัฒนาต่อยอดได้ สิ่งเหล่านี้อาจช่วยลดมลพิษและสร้างงานใหม่ๆ ได้ในอนาคต .-สำนักข่าวไทย

          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด