“อนุทิน” คุยสื่อแล้ว หลังปิดวาจานาน 3 วัน

สธ.30 มี.ค.-“อนุทิน เปิดปาก หลังเงียบนาน 3 วัน แจงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพเวชภัณฑ์ที่ได้รับการบริจาค เพื่อส่งมอบคุณภาพให้กับสถานพยาบาล  ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ สธ.ติดโควิด-19 อย่าเพิ่งรีบตื่นตกใจกำลังเร่งสอบสวนโรค ว่าติดจากที่ไหน ส่วนกระแสทุจริตชุดทดสอบโควิด  ย้ำข้าราชการเป็นเพื่อนร่วมงาน หากพบเห็นคำสั่งไม่ชอบ ขอให้ปฏิเสธ 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ปรารถนาให้การสนับสนุนช่วยเหลืองานของกระทรวงสาธารณสุข บริจาคสิ่งของ ทั้งยาและเวชภัณฑ์มาให้ใช้ในการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 จำนวนมาก จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารเวชภัณฑ์ ทำหน้าที่ในตรวจสอบคุณภาพเวชภัณฑ์ที่ได้รับ และกระจายสิ่งของให้กับโรงพยาบาล ซึ่งหากของสิ่งใดไม่ได้คุณภาพ หรือ ไม่ปลอดภัยก็จะไม่แจกจ่าย ให้กับบุคลากร หรือประชาชน และจะมีการแจ้งให้ผู้มาบริจาคทราบ เพราะเข้าใจว่าผู้บริจาคมีเจตนาอันดี อยากให้นำสิ่งของเหล่าให้ใช้ประโยชน์สูงสุด 
นายอนุทิน ยังกล่าวว่า ส่วนเรื่องการพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่ทำงานที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด ติดเชื้อโควิดนั้น  ทางกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลเต็มที่ และไม่อยากให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มคนทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงสาธารณสุข เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ยังไม่รู้ว่าการติดเชื้อเกิดขึ้นในที่ใด 
ส่วนเรื่องความตื่นตัวของประชาชนในการในการปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ในการมีระยะห่างอย่างเหมาะสม 1-2 เมตร หรือ Social Distancing  หรือการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นั้น พบว่า ในส่วน ของการมีระยะห่างพบว่า มีประชาชนสามารถปฏิบัติได้ร้อยละ 70 ส่วนการอยู่บ้าน นั้น พบว่าประชาชนทำได้ร้อยละ 40 ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบจากอัตราการใช้รถใช้ถนนในวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งหากอยากให้การควบคุมโรค สำเร็จ ประชาชนต้องเพิ่มความร่วมมือมากกว่า ในส่วนของระยะห่าง ให้ได้ร้อยละ 80
ส่วนกรณีกระแสข่าวทุจริตชุดตรวจทดสอบโควิด -19 ที่มีอาจมีข้าราชการ และคนใกล้ชิดนักการเมืองเกี่ยวข้องนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า  เรื่องนี้ได้มอบให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้ เนื่องจากข้าราชการมีเกียรติและศักดิ์ศรี นักการเมืองจะมากดดันไม่ได้  เพราะหากพูดถึงคำว่านักการเมืองในกระทรวงสาธารณสุข ก็มีแต่ตนและนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขเท่านั้น ซึ่งเราทั้งสองคนไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน เพราะมองข้าราชการเพื่อนร่วมงาน  มีแต่ความรัก แต่หากมีใครมากดดัน หรือ สั่งการด้วยคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ขอให้ปฏิเสธไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว