กรุงเทพฯ 28 มี.ค.-“โควิด-19” เป็นโรคอุบัติใหม่ที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน คนที่เคยเป็นจนรักษาหายเท่านั้นจึงมีภูมิคุ้มกัน เป็นเหมือนวัคซีนธรรมชาติ หากไวรัสไม่กลายพันธุ์ ส่วนที่เข้าใจกันว่าคนแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันโรค เป็นความเข้าใจผิด ติดตามจากรายงาน
นี่เป็นคลิปผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่โพสต์ลงโซเชียลขณะรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยมีการออกกำลังกายเป็นประจำ ผู้ป่วยแทบไม่แสดงอาการ ร่างกายแข็งแรง ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ทำให้เขามองว่าการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า การออกกำลังกายจะช่วยสร้างแรงต้านทานโรค แตกต่างจากภูมคุ้มกันโรคที่จะเกิดขึ้นหลังเป็นโรคแล้ว ผู้ที่มีแรงต้านทานโรคจะมากน้อยขึ้นอยู่กับระบบร่างกาย มักเป็นผู้ที่ออกกำลังกายประจำ ร่างกายแข็งแรง วัยหนุ่มสาวจะมีแรงต้านทานโรคมากกว่า
ส่วนภูมิคุ้มกันโรคจะเกิดขึ้นหากร่างกายรับเชื้อเข้ามาแล้วสามารถชนะเชื้อโรค ร่างกายจะสร้างโปรตีนที่เรียกว่า แอนติบอดี ขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรค หากสู้ชนะจะกลายเป็นภูมิคุ้มกัน มักเกิดขึ้นหลังรับเชื้อมาแล้วประมาณ 7-10 วัน
ความเข้าใจผิดนี้ยังส่งผลไปถึงกระแสแห่ซื้อชุดตรวจไวรัสโควิด-19 Rapid Test ที่บอกว่าเห็นผลเร็วภายใน 5-10 นาที ทั้งที่จริงแล้วเป็นการตรวจหาภูมิคุ้มกัน ดังนั้น หากไม่เคยเป็นโรคโควิด-19 ผลตรวจออกมาเป็นลบเสียงทั้งเงินเสียทั้งเวลา หรือแม้ติดเชื้อแล้ว แต่ยังไม่ถึง 7 วัน ผลตรวจก็ออกมาเป็นลบเช่นกัน ถือเป็นลบปลอมที่ยิ่งสร้างความเสี่ยงทั้งกับตัวเองและผู้คนรอบข้าง
ขณะนี้ไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กว่า 1,000 คน หลายคนรักษาจนหายดี และเมื่อกลับบ้าน กลับถูกชุมชนระแวง ไม่ยอมรับ
คุณหมอทวี บอกว่า ข้อมูลวิจัยในประเทศจีนระบุว่า ทางเดินหายใจของผู้ป่วยจะมีเชื้อในระยะที่ติดต่อได้เฉลี่ยอยู่ที่ 8 วัน หลังจากนั้นจะกลายเป็นเชื้อตายที่ไม่ติดต่อสู่ผู้อื่น แต่ยอมรับการตรวจว่าเชื้อเป็นหรือตายยังยุ่งยาก ทำเฉพาะในการวิจัย จึงใช้วิธีสังเกตุอาการ หากดีขึ้นก็ให้กลับบ้านได้
ผู้ป่วยที่หายจากโรคนี้ จะมีภูมิคุ้มกัน ไม่เป็นซ้ำ การตรวจพบเชื้ออีกครั้งในผู้ที่เคยเป็นแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนจากผลแล็บ ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นโรคนี้ซ้ำคือ การกลายพันธุ์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19.-สำนักข่าวไทย