เพิ่มจุดตรวจ กทม.-ปริมณฑลเป็น 377 จุด

ทำเนียบฯ 27 มี.ค.-โฆษก ศบค. เผย นายกฯ ขอบคุณความร่วมมือจากประชาชนและทุกฝ่าย ร่วมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19   มท.สั่งยกระดับความเข้มข้น กทม.-ชลบุรี-อุบล-ภูเก็ต-สงขลา-3 จังหวัดชายแดนใต้  ขณะที่ ผบ.ทสส.สั่งเพิ่มจุดตรวจ กทม.-ปริมณฑล เป็น 377 จุด


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค.   เปิดเผย ภายหลังการประชุม วันนี้ (27 มี.ค.) ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชื่นชมประชาชนและทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19  เช่น การจัดที่นั่งในรถประจำทาง และที่นั่งในโรงอาหารตาม Social Distancing มาตรการเว้นระยะห่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยดูแลป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อได้ 

สธ.รายงานผู้ป่วยเพิ่ม 91 ราย


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานตัวเลขสถิติของผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ เพิ่มขึ้น 91 ราย รวมเป็น 1,136 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 5 ราย ผู้เสียชีวิตเป็นชายที่เดินทางกลับมาจากร่วมพิธีทางศาสนา ที่ประเทศมาเลเซีย ขณะที่ พบผู้ป่วยใน 52 จังหวัดทั่วประเทศ คิดเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ร้อยละ 50.7 และต่างจังหวัด ร้อยละ 49.3 แบ่งเป็นชาวไทยร้อยละ 88.32 ชาวต่างชาติ ร้อยละ 11.68  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  จำนวนเตียงที่จะรองรับผู้ป่วย หรือผู้ที่มีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวัง ขณะนี้ มีโรงพยาบาลรัฐและเอกชน , โรงเรียนแพทย์ , ค่ายทหาร รวมถึง โรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข้าร่วมด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะทดลองนำผู้ป่วยที่มีอาการน้อยไปเฝ้าระวัง ส่วนเรื่องของเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ย้ำว่าเพียงพอ มีการตรวจสอบ และดูแลผ่านระบบออนไลน์ช่วยอีกทางหนึ่ง  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การเตรียมโรงพยาบาลสนามไว้รองรับ หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้น  มีการนำร่องในพื้นที่กรุงเพฯ 250 เตียง แต่ไม่สามารถระบุสถานที่ได้ ในส่วนนี้ต้องทำความเข้าใจประชาชนว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหนัก  โรงแรมหรือสถานพยาบาลใดที่มีผู้ป่วยอยู่ ไม่ได้เป็นสถานที่ที่น่ากังวล หรือ ตั้งข้อรังเกียจ


“งบกลาง 1,500 ล้านบาท  ที่ประชุมมอบกระทรวงสาธารณสุขเป็นศูนย์กลางในการจัดซื้อและกระจายอุปกรณ์เวชภัณท์ทางการแพทย์ไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ต้องการ รวมทั้ง มีบริษัทเอกชนได้เสนออุปกรณ์ที่จะช่วยในการตรวจผู้ป่วย ที่ประชุมจึงได้อนุมัติให้บริษัทเอกชนสามารจำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 (ชุดตรวจโพรงจมูก) อีก 12 บริษัท และชุดตรวจภูมิคุ้มกันอีก 3 บริษัท” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

เสนอให้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยระดับชาติ 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ด้านกระทรวงพาณิชย์แจ้งมาตรการดำเนินการสินค้าเกินราคา โดยเฉพาะราคาของไข่ไก่ เบื้องต้นได้มีการนัดพูดคุยกับผู้ประกอบการ 7 รายใหญ่  ระบุว่า ราคาต้นทุนของราคาไข่ไก่เบอร์ 3 อยู่ที่ 2.80 บาท  ต่อฟอง  มีการกำหนดราคาขายให้ไม่เกิน 3.30 บาท  และได้มีการดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มข้น และมีการจับกุมผู้ที่จำหน่ายเกินราคา เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบประชาชน 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการดูแลหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความต้องการ ในที่ประชุมได้มีการเสนอให้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยระดับชาติ โดยจะมีคณะอนุกรรมการ 2 ชุดขึ้นมาดูแล ชุดแรกควบคุมราคากลาง และอีกชุดจะพิจารณาการส่งออกไปต่างประเทศ 

ยกระดับการป้องกันเข้มบางพื้นที่ 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยรายงานสถานการณ์ พบว่าบางจังหวัดต้องควบคุมดูและยกระดับความเข้มข้น โดยจะมีมาตรการสกัดกั้นป้องกันไม่ให้เชื้อเข้าไปในพื้นที่ และยับยั้งไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย ดังนั้น จะมีการยกระดับในบางจังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล , ชลบุรี พัทยา ระยอง , อุบลราชธานี , สงขลา ภูเก็ต ปัตตานี ยะลา นราธิวาส 

“ไม่มีการพูดเรื่องเคอร์ฟิว แต่นายกรัฐมนตรีให้อำนาจผ่านกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าฯ พิจารณามาตราการต่างๆ ตามความเหมาะสมเช่น การประกาศปิดชายหาด หรือ สถานที่อื่นๆ หรือ กรณียังมีการรวมกลุ่มของประชาชนต่างจังหวัดในแต่ละวัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ส่วนเรื่องของคนไทยในอิตาลี เบื้องต้นได้มีการหารือในการเช่าเหมาลำเครื่องบินไปรับคนไทยอิตาลี โดยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข จะหารือถึงการดูแลป้องกัน รวมทั้ง เอกสารการเดินทาง โดยเฉพาะใบรับรองแพทย์ที่เรียกว่า Fit To Fly อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับรายงาน และคณะทำงานที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าว จะประชุมกันในวันจันทร์ที่ 30 มีนาคม นี้    

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนผันให้เปิดร้านศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือของโอเปอเรเตอร์ค่ายต่างๆ เพื่อให้บริการประชาชน ในช่วงระหว่างที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้โซเชียลมีเดียติดต่อประสานงาน , การทำงาน , และสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นได้สะดวกมากขึ้น

เพื่มจุดตรวจเป็น 377 จุด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดขอบคุณประชาชน และ ขอให้ทำความเข้าใจว่า เมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การเดินทางย่อมไม่สะดวกเหมือนเดิม  การตั้งด่านในขณะนี้ มีขั้นตอนการคัดกรองต่างๆ ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้รับความสะดวก  ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลต้องการให้ทุกคนอยู่บ้าน ดังนั้นเวลา 20.00-21.00 น. แต่ละคนก็ควรอยู่ในบ้าน การออกมาสัญจรจะพบด่านตรวจเป็นเรื่องที่ต้องการให้ทุกคนทำความเข้าใจ และจะเพิ่มจุดตรวจอีก 377 จุด

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึง กรณีการสื่อสารของนายอนุทิน ชาญวรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่า นายอนุทินได้ออกคลิปแสดงความเสียใจ และปรับท่าทีใหม่แล้ว ทั้งนี้เป็นเพราะเบื้องต้นได้รับชุดข้อมูลว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อ ไม่ได้มีควารมเชื่อมโยงกับผู้ป่วย แต่เมื่อทราบว่ามีบุคลากรติดเชื้อ และเชื่อมโยงกับผู้ป่วยก็ได้ปรับท่าที และออกมาชี้แจงใหม่.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย