เสาชิงช้า 24 มี.ค.-กทม.กำชับหน่วยงานต่างๆ เตรียมพร้อมรับและปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะประกาศใช้ในวันที่ 26 มี.ค.นี้
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯกทม.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม.นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. และคณะผู้บริหาร กทม.ร่วมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
โดยวันนี้ ที่ประชุมฯ ได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมความพร้อมรับและปฏิบัติตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งนายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้เป็นระยะเวลา 1เดือนและจะมีผลบังคับใช้ในวันที่26 มี.ค.63 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ กทม.ได้จัดทำร่างแผนบริหารความต่อเนื่องขององค์กรในการบริหารงานในสภาวะวิกฤต (Business Continuity Plan:BCP) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์วิกฤต เพื่อให้หน่วยงานสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ลดผลกระทบจากการหยุดชะงักในการดำเนินงาน ลดความเสียหาย หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยให้คณะทำงานพิจารณารายละเอียดร่างแผนฯ ดังกล่าวก่อนจะมีการนำมาใช้ปฏิบัติจริง
โดยจะพิจารณาแบ่งลักษณะงานออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ประเภทที่ 1.งานที่หน่วยงานจำเป็นต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถหยุดได้ และไม่สามารถปฏิบัติจากที่บ้านได้ เช่น งานทะเบียน งานรักษาความปลอดภัยและช่วยเหลือประชาชน งานรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เป็นต้น ประเภทที่
2.งานที่สามารถปฏิบัติงานจากที่บ้านได้ (Work from Home) โดยใช้ระบบงานพื้นฐาน เช่น การใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเข้ามาสนับสนุนการทำงานเพื่อให้สะดวกขึ้นและเป็นงานที่ไม่ควรหยุดชะงักเป็นเวลานาน หรือเป็นงานที่สามารถมาปฏิบัติที่หน่วยงานได้เป็นครั้งคราวเท่าที่จำเป็น ซึ่งส่วนมากจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับเอกสาร เช่น งานธุรการ งานจัดทำแผน ฯลฯ
และประเภทที่ 3.งานที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน สามารถชะลอ หรือระงับการดำเนินงานชั่วคราวได้ เช่น งานจัดฝึกอบรมให้ความรู้ เป็นต้น เมื่อวิเคราะห์งานตามความสำคัญหรือความจำเป็นเร่งด่วนของงานที่ต้องมาปฏิบัติในกรณีเกิดโรคระบาดแล้ว จะกำหนดแนวทางการปรับเปลี่ยนการทำงานและสถานที่ปฏิบัติงานต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการจัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าสำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไปเพื่อป้องกันการติดต่อและแพร่เชื้อของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 11ก.พ.63เป็นต้น กทม.โดยโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร 8 แห่ง สำนักงานเขตร่วมกับชุมชนทั้ง 50 เขต หน่วยงานในสังกัด กทม. ศูนย์สร้างสุขทุกวัย ศูนย์กีฬา ศูนย์ฝึกอาชีพ กทม.ศูนย์บริการสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ สามารถผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้าได้รวมทั้งสิ้น 118,053 ชิ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มี.ค.63) บางส่วนได้แจกจ่ายให้ประชาชน เจ้าหน้าที่ กทม.เพื่อลดความเสี่ยงการได้รับเชื้อ อันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทางหนึ่งแล้ว .-สำนักข่าวไทย

