คนไทยเสียชีวิตโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย -ป่วยสะสม 827 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 24 มี.ค.-สธ.แถลงผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว รวมผู้เสียชีวิตในไทยขณะนี้ 4 ราย ขณะที่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 106 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 827 ราย ย้ำเตือนประชาชน รักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1 -2 เมตร งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ไปในพื้นที่แออัด 



นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ขอเริ่มที่ข่าวดีคือวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ 5 รายแต่พบมีผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 106 ราย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้   


กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 25 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวยลุมพินี และราชดำเนิน 5 ราย ,สถานบันเทิง ทั้งที่ทองหล่อ อาร์ซีเอ นานา  6 ราย, กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 12 ราย และกลุ่มผู้ร่วมพิธีทางศาสนา  ที่ประเทศมาเลเซีย 2 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 34 ราย แบ่งเป็น

กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และชาวต่างชาติ 20 ราย(คนไทย 8 ราย และชาวต่างชาติ 12 ราย


กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 10 ราย 

และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย มีทั้งหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน จ.ภูเก็ต ยะลา บุรีรัมย์ และนครปฐม

ซึ่งกลุ่มนี้น่าเป็นห่วงและน่าตกใจ เนื่องจากผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาหรือให้วิเคราะห์โรคไม่ยอมบอกข้อมูลที่แท้จริงทั้งหมด ว่าตนเองนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้จึงป้องกันตัวเองไม่ทัน

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 47 ราย 

และวันนี้ได้รับรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย รายแรกเป็นชายไทย อายุ 70 ปี (เป็นผู้ป่วยที่มีโรควัณโรคร่วม) รายที่ 2 เป็นชาวไทยอายุ 79 ปี (เป็นเซียนมวยอาการหนักตั้งแต่แรกรับ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 มีโรคประจำตัวหลายโรค) โดย 2 รายแรกรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร เข้ารับการรักษาจนไม่พบเชื้อโควิด  แต่เนื่องจากมีอาการป่วยแทรกซ้อน และก้อนหน้านี้เชื้อโควิด-19ได้เข้าไปทำลายปอดเสียหายพอสมควรแล้วและรายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 45 ปี (มีโรคเบาหวาน และภาวะอ้วน) จากโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร

สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 

โดยสรุป มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 57 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 766 ราย เสียชีวิต 4 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 827 ราย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมีการวิเคราะห์อัตราการแพร่กระจายเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบว่าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อัตราการแพร่และส่งต่อเชื้อไปสู่ผู้อื่นมากที่สุด โดย 1คนมีอัตราการแพร่กระจายของเชื้อโรค ส่งต่อไปได้ 3.4 คน รองลงมา คือสงขลา ปัตตานี ยะลา และภูเก็ต  1 คนมีอัตราการแพร่กระจายของเชื้อโรค ส่งต่อไปได้ 2.2 คน  ส่วนจังหวัดอื่น 1 คนมีอัตราการแพร่กระจายของเชื้อโรค ส่งต่อไปได้ 1.8 คน

ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำข้อมูลสถานที่ชุมนุมชนที่มีประกาศ ให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตนเองใน 25 แห่ง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี, ขอนแก่น, กทม.,สงขลา,นครราชสีมา, นนทบุรี และสุรินทร์ โดยผู้ที่อยู่ในสถานที่ และช่วงเวลาตามประกาศ ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด,ผู้ว่าราชการจังหวัด,ผอ.โรงพยาบาล,นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ,กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน,อสม. , ผู้นำชุมชน ทันที และให้กักกันตนเองและสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันอย่างเคร่งครัด หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ทันที  สำหรับประชาชนสามารถติดตามข้อมูลประกาศสถานที่พบผู้ป่วยโควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค  และเพจ “ไทยรู้ สู้โควิด”

นอกจากนี้ขอย้ำเตือนประชาชน ช่วยกันรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1 -2 เมตร งด/ลด การเดินทางโดยไม่จำเป็นไม่ไปในพื้นที่แออัด แยกสำรับอาหารไม่ใช้ช้อน ถ้วย ชาม แก้วน้ำร่วมกัน หากมีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ไข้ ไอ เจ็บคอ  มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัยไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติเสี่ยง ขอให้ทุกคนร่วมมือกันกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไปในวงกว้าง ลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ให้มีน้อยที่สุด

พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ปัจจุบันพบข้อมูลป่วยโควิด-19 รวม 192 ประเทศ มากขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ป่วยรวมกว่า 3.6 แสนราย โดยเฉพาะโซนยุโรป อเมริกาและเสียชีวิตเพิ่ม  รวมกว่า 10,000 ราย ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 31 อัตราการเพิ่มของจำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  จากหลักหน่วยเป็นสิบ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นมา และเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อย วันที่22 มีนาคม เป็นต้นมา โดยประเทศที่ยังคงต้องเฝ้าระวังและคัดกรองเข้ามายังประเทศไทยยังคงเป็น 4ประเทศ คือจีน อิตาลี อิหร่าน เกาหลีใต้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีการคัดกรอง ตั้งแต่ที่สนามบิน ก่อนเข้าประเทศ รวมทั้งตามชายแดน มีการคัดกรองทุกด่าน ตั้งแต่ 3 ม.ค.เป็นต้นมา 

สำหรับลักษณะของผู้ป่วยในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย โดยอัตรา เป็นชายต่อหญิง คือ 2 ต่อ 1 กลุ่มอายุผู้ป่วยส่วนใหญ่  คือ 30-39 ปี รองลงมาคือ 20-29 ปี มากกว่าผู้สูงอายุ การกระจายโรคขณะนี้กระจายไป47 จังหวัดแล้ว พบเป็นเคสสนามมวยเดินทางไปต่างจังหวัด กทม.ยังคงเป็นอันดับ1 จำนวน 349 ราย จ.นนทบุรี 47 ราย อัตราการแพร่เชื้อใน7 วัน คนที่อยู่ กทม.ผู้ป่วยสามาถแพร่เชื้อได้ 1 ต่อ 3.4 คน ส่วนสงขลา ปัตตานีอัตราแพร่เชื้อ 1 ต่อ 2.2 คน และจังหวัดอื่นๆ1ต่อ 1.8 คน  พร้อมขอให้ประชาชนทำตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social distancing เพื่อลดโรค ซึ่งมาตรการปิดสถานที่เสี่ยง และการเสนอให้อยู่บ้านเป็นหลักและอยู่บ้าน ลดการเดินทาง จะทำให้ตัวเลขผู้ป่วยลดลง  กว่าครึ่ง

พญ.วลัยรัตน์ กล่าวว่า ชายวัย 79 ปี เซียนมวยที่เสียชีวิตเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือไม่นั้น  บอกไม่ได้ แต่ตอนนี้ได้แจ้งผู้ที่ไปสนามมวย หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ต้องเข้ารับรักษา ไม่ถึงกับเรียกให้มารายงานตัว  รวมถึงผู้ที่ไปในสถานที่ที่พบผู้ป่วย ก็ต้องเฝ้าระวังอาการ 14 วันเช่นกัน หากมาตรวจในช่วงแรกอาจไม่เจอเชื้อ แต่ให้เฝ้าระวังอาการก่อน ตอนนี้พยายามสืบหาต้นตอผู้ป่วยคนแรก โดยการสอบสวนโรคจากผู้ป่วย แต่การบอกว่าใครคือผู้ป่วยคนแรกคงหายาก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทะลักด่านคลองลึก หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา

สระแก้ว 24 มิ.ย. – วุ่นเล็กน้อย วันแรกปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ชาวไทย-กัมพูชาที่ตกค้าง ต่างเร่งรีบเดินทางกลับให้ทันกำหนดเวลา 20.00 น. หลังอนุโลมเปิดด่านให้กลับภูมิลำเนา วันนี้วันเดียว ส่วนนักเรียน-นักศึกษา ยังคงผ่านแดนได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.ภูมิใจไทย ยังอยู่ครบ หลังถูกแรงดูด

ภูมิใจไทย 24 มิ.ย. – ‘อนุทิน’ ยัน 69 สส.พรรคภูมิใจไทยยังอยู่ครบ หลังถูก ‘แรงดูด’ ยังอุบเป็นพรรคไหน เผยหลังเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ชาวบ้านชมตัดสินใจถูกต้อง อัดกลับไม่ควรใช้วิธีสกปรก หลังเจอใส่ความ ‘น.หนู’ เบื้องหลังจัดม็อบ-ปล่อยคลิปเสียงหลุด ขอเคลียร์ไม่เคยชวนใครตามออกมา ย้อนถามกลับ ‘พรรคอนุรักษ์นิยม’ คืออะไร นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีสส.ของพรรคถูกดูด หลังออกมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านว่า สส.ของพรรคยังอยู่ครบทั้ง 69 คน แต่ที่ทราบมาก็มีแรงดูด แต่ก็ดูดไม่ได้ โดยสส.ที่ได้รับการติดต่อมาก็เล่าให้ฟัง ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ไปไหน และไม่เชื่อถือในระบบการเมืองที่มีการดูดสส.กัน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคยึดถือการเมืองรุ่นใหม่ เมื่อถามว่า เขาดูดด้วยอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีเงื่อนไขอะไรต่างๆหลายอย่าง เมื่อถามว่า เป็นพรรคแกนนำ หรือพรรคร่วมรัฐบาลที่มาดูด นายอนุทิน กล่าวว่า อย่ามาพูดตรงนี้เลย ถ้ามาพูดตรงนี้เดี๋ยวคราวหลังเขาไม่เล่าให้ฟัง เมื่อถามว่าหลังกรณีเกิดคลิปเสียงหลุดระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ชาวบ้านสะท้อนอย่างไรบ้าง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย […]

รวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท กลางห้างดังหาดใหญ่

สงขลา 24 มิ.ย. – ตำรวจรวบทันควันหนุ่มชิงทอง 25 บาท ร้านทองในห้างดังกลางเมืองหาดใหญ่ อ้างเดือดร้อนเรื่องเงิน ครอบครัวมีหนี้สิน ตำรวจสายตรวจ สภ.หาดใหญ่ ออกตรวจพื้นที่ สามารถจับกุมชายวัย 35 ปีไว้ได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 5 เส้น มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท หลังบุกเดี่ยวชิงทองภายในห้างกลางเมืองหาดใหญ่ และวิ่งข้ามถนนหนีเข้าไปในซอยใกล้เคียง ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายสวมเสื้อฮู้ดคลุมศีรษะเข้ามาก่อเหตุ และไม่ได้ทำร้ายพนักงานร้านทอง เจ้าตัวอ้างว่ากำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน และครอบครัวมีหนี้สิน วันนี้ต้องหาเงินให้ได้ จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ รับ ครม.ใหม่ลงตัวแล้ว ยันไม่ควบเก้าอี้ กห.

ทำเนียบ 24 มิ.ย.- นายกฯ ยอมรับคณะรัฐมนตรีใหม่ลงตัวแล้ว ส่งรายชื่อรัฐมนตรีบางส่วนตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่ควบเก้าอี้กลาโหมแน่นอน มองต้องเป็นคนเหมาะสมดูแลเรื่องชายแดนได้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีความลงตัว โดยได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนแล้ว หลังจากนี้จะส่งรายชื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งขณะนี้ได้ส่งบางรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เมื่อเรียบร้อยแล้วก็จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตามขั้นตอนต่อไป พร้อมยืนยันปัญหาของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นจบแล้ว ส่วนกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กดดันให้ตนเองลาออกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งได้พูดคุยกันตามปกติ รวมถึงได้พูดคุยกันที่โรงแรมโรสวูด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ยืนยันทุกพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุน และให้กำลังใจ ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี ส่วนหลังจากนี้จะมีเสียงใครมาเติมให้รัฐบาลหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังแข็งแรงอยู่ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจะมีปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ ไว้ได้ข้อสรุปสุดท้ายแล้วจะบอกอีกครั้ง พร้อมยืนยันตนเองจะไม่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแน่นอน สำหรับสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ยึดหลักการอะไรในการวางบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกกระทรวงต้องรับมือให้พร้อม เพราะไม่ได้เกิดขึ้นกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่ต้องช่วยกันอย่างบูรณาการ จึงต้องเป็นคนที่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้ ซึ่งทุกวันนี้มีนายภูมิธรรม เวชยชัย […]