ทำเนียบฯ 20 มี.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ระบุ เปิดค่ายทหารเป็นโรงพยาบาลสนาม จะทำเมื่อถึงขั้น 3 ขณะนี้เป็นการเตรียมการ พ้อ “ทำก็ว่า ไม่ทำก็ว่า” ขณะที่ ทำเนียบฯ เข้ม คัดกรอง จัดระเบียบสื่อฯ ก่อนสัมภาษณ์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ได้ฉีดพ่นทำความสะอาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในห้องประชุมคณะรับมนตรีแล้ว และยังไม่มีแนวคิดการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์
ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เสนอให้รัฐบาลปูพรมสแกนตรวจโควิด-19 ทุกพื้นที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องพิจารณาก่อน ส่วนมองว่าเป็นข้อเสนอที่ดีหรือไม่ ที่ใช้กลไกสาธารณสุข ชุมชนหยิบคนป่วยออกมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้น 3 หากถึงขั้น 3 แล้วค่อยดึงออกมา
ต่อกรณีที่หลายจังหวัดมีผู้ติดเชื้อแล้ว จำเป็นต้องสแกนตรวจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า ยังไม่ต้อง ถ้าใครที่มีโอกาสจะเป็น ก็ให้ออกมาตรวจ เพราะตรวจฟรีอยู่แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายเสนอให้ปิดประเทศนั้น พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีตอบไปแล้ว ส่วนที่คนไทยในอังกฤษเข้าไปขอใบรับรองแพทย์ก่อนกลับไทย จะเสี่ยงนำเชื้อกลับไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องกักกันตัว 14 วันก่อน จึงจะออกใบรับรองแพทย์ได้ และเมื่อเดินทางมาประเทศไทย ก็จะถูกดำเนินการกักตัวอีก 14 วัน ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพราะเขาก็คือคนไทย
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาเชื่องช้านั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เห็นโพลที่เขาทำ ก็เชื่อมั่นรัฐบาล พร้อมถามผู้สื่อข่าวว่า จะถามให้เกิดความแตกแยกทำไม
ต่อข้อถามว่า แนวคิดเปิดค่ายทหารใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะใช้ทุกแห่ง เมื่อถึงขั้นที่ 3 แล้ว ขณะนี้เป็นเพียงการเตรียมการเท่านั้น พร้อมตัดพ้อว่า “ทำก็ว่า ไม่ทำก็ว่า” ส่วนการพิจารณาการปิดจุดผ่านแดนถาวร ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร ทำเนียบรัฐบาลได้เข้มงวดนำมาตรการคัดกรอง ตรวจวัดไข้ และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยให้สื่อมวลชนอยู่ห่างจากแหล่งข่าวประมาณ 2 เมตร รวมถึง พล.ต.พัชรศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ได้นำแอลกอฮอล์ฉีดพ่นที่บริเวณไมค์ ก่อนการสัมภาษณ์เพื่อฆ่าเชื้อด้วย .- สำนักข่าวไทย