CPN ปรับเวลาเปิด-ปิด 8 ศูนย์การค้า เริ่มตั้งแต่ 21 มี.ค.นี้

19 มีนาคม 63 – CPN  แจ้งปรับเวลาเปิด-ปิดของศูนย์การค้า จำนวน 8 แห่ง 


เซ็นทรัลพัฒนา ‘ห่วงใย-จริงใจ-ให้ความเชื่อมั่น’ ปรับเวลาการให้บริการ และแบ่งเบาภาระช่วยเหลือร้านค้าอย่างเต็มที่ ยกระดับมาตรการป้องกันให้ลูกค้ามั่นใจมาใช้บริการ รับมือ COVID-19

ปรับเวลาเปิด-ปิดศูนย์การค้า ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และแบ่งเบาค่าใช้จ่ายลดผลกระทบของร้านค้า


เพิ่มมาตรการป้องกันดูแลลูกค้าเพื่อความมั่นใจ รวมถึง Social Distancing ในส่วนต่างๆ ของศูนย์การค้า

ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าเช่าให้ร้านค้าในวงกว้างทั่วประเทศทั้งรายเล็กรายใหญ่ โดยดูแลส่วนลดค่าเช่าของแต่ละร้านตามความรุนแรงที่ได้รับผลกระทบในแต่ละศูนย์การค้า และในแต่ละช่วงที่เกิดขึ้น 

พร้อมแผน BCP (Business Continuity Plan) เข้มงวดความปลอดภัยในการทำงาน ที่ตอบรับกับสถานการณ์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ


ช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรและอาชีพรายย่อยที่ได้รับผลกระทบ เปิดพื้นที่ให้นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย

กรุงเทพฯ – วันนี้ (20 มีนาคม 2563)  นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้ส่งสาส์นจากซีอีโอ ระบุว่า บริษัทฯ มีความห่วงใยทุกท่านเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ และขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการดำเนินมาตรการป้องกันด้านต่างๆ อย่างสุดความสามารถ โดยทางบริษัทฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีมาตรการต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพื่อป้องกันดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ พนักงานคู่ค้า และพนักงานของบริษัทฯ รวมทั้งได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางด้านการทำธุรกิจในช่วงเวลานี้ ดังต่อไปนี้

1.ห่วงใยเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันภายในศูนย์การค้าให้รัดกุมสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้น

บริษัทฯ ยังคงเน้นในเรื่องสุขลักษณะของสถานที่และการปฏิบัติของพนักงานที่ให้บริการอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับร้านค้าภายในศูนย์การค้าในการดูแลและคัดกรองพนักงานที่ทำงานในร้านค้า และศูนย์การค้า การทำความสะอาดจุดสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ และการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วทั้งสถานที่หลังเวลาดำเนินการเป็นประจำ รวมทั้งการกำหนดระยะห่าง (Social Distancing) ในศูนย์การค้า 

2.ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าเช่าของร้านค้า เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

•เพื่อเป็นส่วนช่วยในการจำกัดเวลาการทำกิจกรรมต่างๆ ของคนจำนวนมาก และลดภาระให้กับร้านค้าในช่วงที่ได้รับผลกระทบ บริษัทฯ ได้พิจารณาปรับลดเวลาทำการของศูนย์การค้าฯให้สั้นลง โดยยังสามารถให้บริการกับลูกค้าทั่วไปได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอตามเวลาที่ต้องการใช้บริการในช่วงปกติ ทางศูนย์การค้าจึงขอความร่วมมือปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

เวลาเปิด-ปิดทำการของศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ

1. เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัล วิลเลจ รวม 24 สาขา

วันเปิดบริการ   เวลา เปิด-ปิด

ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เปิดบริการ 11.00 น. – 20.00 น.

2. เซ็นทรัล ภูเก็ตฟลอเรสต้า & เฟสติวัล, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช, และเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 รวม 4 สาขา

วันเปิดบริการ เวลา เปิด-ปิด

จันทร์-พฤหัสบดี เปิดบริการ 11.00 น. – 20.00 น.

ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดบริการ 11.00 น. – 22.00 น.

3. เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2, เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต, เซ็นทรัลพลาซา บางนา และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ รวม 5 สาขา

วันเปิดบริการ เวลา เปิด-ปิด

จันทร์-พฤหัสบดี เปิดบริการ 11.00 น. – 20.00 น.

ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดบริการ 11.00 น. – 21.00 น.

สำหรับ “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์” เปิดให้บริการตามเวลาปกติของแต่ละสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าที่จำเป็น

•การให้การช่วยเหลือร้านค้าภายในศูนย์การค้าด้วยการให้ส่วนลดค่าเช่าของแต่ละร้านค้าตามความรุนแรงที่ได้รับผลกระทบในแต่ละศูนย์การค้าและในแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ตั้งแต่      10-50% โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านค้าทั้งรายใหญ่และรายเล็กเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ที่จะต้องให้การดูแลอย่างทั่วถึง 

3.ดูแลเอาใจใส่พนักงานของบริษัทฯ อย่างเต็มที่ และหาแนวทางรักษาการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ในด้านความปลอดภัยของพนักงาน และการดำเนินงานของบริษัทฯ บริษัทฯ มีมาตรการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การประชุมกับบุคคลทั้งภายใน และภายนอก การเดินทาง รวมถึงการลดความหนาแน่นในสถานที่ทำงาน โดยการทำงานที่บ้านและการทำงานแยกสถานที่ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความต่อเนื่องของการดำเนินงาน และยังได้จัดทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมให้กับพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมและทันท่วงที ทั้งนี้ ผู้บริหารและพนักงานทุกคน ยังได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในทุกระดับขององค์กรเพื่อให้บริการที่ดีและปลอดภัยกับคู่ค้า ประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพื่อลดค่าใช้จ่ายทุกด้านในทุกระดับขององค์กร พร้อมกับหาแนวทางบริหารจัดการให้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานให้น้อยที่สุด เพื่อรักษาผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น และดูแลพนักงานทุกคนอย่างดีที่สุดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

4.ดูแลทุกภาคส่วน เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ

บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างใกล้ชิดในการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าประชาชนทั่วไป และคู่ค้าของบริษัทฯ ให้สามารถมาใช้บริการและมีการดำเนินการธุรกิจในศูนย์การค้าฯ ให้เป็นปกติได้ รวมถึงปรับพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นช่องทางช่วยเหลือเกษตรกร และกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบที่ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายในช่วงวิกฤตนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย

บริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้า ร้านค้าผู้เช่า คู่ค้า ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่มีความเข้าใจและได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการของบริษัทฯ เป็นอย่างดีเพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยกันอย่างดีที่สุด

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]