หลายจังหวัดคุมเข้มป้องกันโควิด-19 ปิดสถานบริการ ผับ บ่อนไก่ ชนวัว

ภูมิภาค 19 มี.ค. -ขานรับมาตรการป้องกันโควิด-19 ระบาด พ่อเมืองหลายจังหวัดสั่งปิดสถานบันเทิง สถานบริการ บาร์เบียร์ ผับ โรงหนัง บ่อนไก่ ชนวัว งดเล่นมหรสพ เป็นเวลา 14 วัน


สุราษฎร์ธานีปิดสถานบริการ 14 วัน หลังพบผู้ติดโควิด-19

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี แถลงสั่งปิดสถานบันเทิง บ่อนชนไก่ ชนวัวถึงสิ้นเดือน หลังพบเสี่ยรับเหมาก่อสร้างกลับจากปัตตานีติดโควิคอาการวิกฤติ รอดูอาการผู้ใกล้ชิดเสี่ยงสุด 37 คน


เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ ที่ห้องประชุมตาปี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี แถลงสถานการณ์และมาตรการป้องกันระบาดเชื้อโรคจากไวรัสโควิด-19  

นพ.มนู กล่าวว่า จ.สุราษฎร์ธานี พบผู้ป่วย 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 49 ปี เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2563 มีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ปอดอักเสบ ไตผิดปกติ พักอยู่ หอผู้ป่วยวิกฤติ ใส่เครื่องช่วยหายใจ มีประวัติการเดินทางมาจากจังหวัดชายแดนใต้ มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ประกอบธุรกิจร่วมกับชาวมาเลเซีย โดยเริ่มป่วยครั้งแรกมีอาการหนาวสั่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2563 และวันที่ 9 มีนาคม ขับรถยนต์คนเดียวมาที่สุราษฎร์ธานี และพักอยู่ที่บ้าน 1 วัน (10 มี.ค.63) และวันที่ 11 มีนาคม ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนใน จ.สุราษฎร์ธานี และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี รวมทั้งได้ส่งตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งแรกได้รับผลพบติดเชื้อเมื่อวันที่ 15 มีนาคม เวลา 22.00 น.และผลการตรวจยืนยันครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม เวลา 22.00 น. 

ขณะนี้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤติ ซึ่งไข้ลดลงและได้ทำการล้างไต ทีมสอบสวนโรคประชุมวางแผนลงพื้นที่เก็บรวบรวมข้อมูลหาผู้สัมผัสผู้ป่วยพบมีผู้เสี่ยงสูง 37 คน ได้รับการกักตัวที่บ้านและหลัง 5 วัน ได้ส่งตัวอย่างไปตรวจหาเชื้อ เนื่องจากแต่ละคนสัมผัสไม่พร้อมกัน ที่เหลือเสี่ยงต่ำ 54 คน จะทยอยตรวจให้ครบโดยให้ทั้งหมดกักตัวอยู่ที่บ้านรอฟังผล 


ด้านนายวิชวุทย์ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีประกาศขอให้งดการละเล่นมหรสพ 14 วัน ตั้งแต่ 18 – 31 มีนาคม 2563 ขอให้สถานบันเทิงทุกแห่ง บ่อนไก่ บ่อนชนวัว ให้หยุดกิจการชั่วคราวไป และจะให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปฉีดยาฆ่าเชื้อ ยืนยันทางจังหวัดมีมาตรการคัดกรองเข้มข้น

ผู้ประกอบการพัทยาให้ความร่วมมือปิดสถานบริการ 14 วัน ป้องกันโควิด-19 

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าฯ ชลบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี มีมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคโควิด-19 ให้ปิดสถานบริการตามกฎหมายสถานบริการในพื้นที่จังหวัดชลบุรีทุกแห่ง รวมไปถึงร้านสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กิจกรรมนวดเพื่อสุขภาพ สปา และกิจการเพื่อเสริมความงาม โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ สถานที่สำหรับจัดให้มีการพนันชนไก่ และชกมวยทุกแห่ง งดการจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม 2563 ด้วย

เมื่อช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งสถานบันเทิงต่างๆ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องราตรี ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในพื้นทีเมืองพัทยา พบว่าทุกสถานที่น้อมรับคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ปิดให้บริการ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลักวอล์กกิ้ง สตรีท พัทยาใต้ เงียบเหงา มีเพียงนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากยังคงเดินอยู่บนถนนคนเดิน 

ส่วนบริเวณรอบนอกกลุ่มบาร์เบียร์ ร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปา ต่างพากันปิดตัว ไม่มีการฝ่าฝืนแต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบกลุ่มร้านหมูกระทะ ร้านจิ้มจุ่มริมทางพบว่ายังมีประชาชนเข้าใช้บริการอยู่ตามปกติ นอกจากนี้ยังพบว่ามีกลุ่มนักดื่มจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะออกมานั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณชายหาด โดยใช้เสื่อปูตามจุดต่างๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีบาร์เบียร์บางแห่งเปิดจำหน่ายเบียร์กับนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ได้ว่ากล่าวตักเตือน หากมีร้านใดที่ยังลักลอบเปิดให้บริการ ถือเป็นความผิดในการฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดชลบุรี และยังฝ่าฝืนมีความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองโรคระบาดอีกด้วย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

อุบลราชธานีปิดบาร์ ผับ โรงหนัง ป้องกันโควิด-19

นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี และประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี มีคำสั่งลงวันที่ 18 มีนาคม ให้สถานบันเทิง บาร์ ผับ นวดแผนโบราณ ร้านฟิตเนส ร้านเกมออนไลน์ โรงมหรสพ (โรงหนัง) รวมถึงสนามมวย สนามพนันไก่ชน สนามพนันปลากัด ตลาดนัด และถนนคนเดิน ซึ่งเป็นแหล่งที่มีคนใช้บริการแออัด ให้ปิดตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม

หลังมีประกาศทำให้สถานบันเทิงที่เข้าลักษณะเป็นผับ บาร์ รวมทั้งผู้ให้บริการที่เข้าลักษณะต้องห้ามตามคำสั่งดังกล่าวทั้งหมด ได้ประกาศปิดตัวเองตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 18 มีนาคมเป็นต้นมา นอกจากนี้ ในประกาศเดียวกันยังกำชับให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และร้านขายอาหารขนาดใหญ่ ต้องมีจุดคัดกรองใช้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ใช้บริการก่อนเข้าสู่ตัวอาคาร และให้จัดเจลใช้ล้างมือวางไว้ให้ประชาชนก่อนเข้าใช้บริการ 

อุดรธานีสั่งปิดสถานบริการ 14 วัน

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี ยืนยันไม่มีผู้ป่วย ที่ผ่านมาได้เฝ้าระวังประชาชนเดินทางกลับจากประเทศระบาด และประเทศกลุ่มเสียง 1,606 ราย เพิ่มจากเมื่อวาน 95 ราย กักตัวเองอยู่ที่บ้านครบ 14 วันแล้ว 785 คน และยังคงกักตัวอยู่ที่บ้าน 821 คน โดยพบว่ากลุ่มเสียงที่มีไข้เข้ารับการตรวจเสหะหาเชื้อ 92 ราย ไม่พบว่ามีเชื้อ 87 ราย รอผลการตรวจ 5 ราย โดยส่งไปศูนย์กักตัวค่าย อส.จ.อุดรธานี เพื่อรับส่งต่อกลุ่มเสี่ยงจากต่างประเทศกลับบ้าน  

ผู้ว่าฯ อุดรธานี กล่าวว่า อุดรธานีเป็นเมืองใหญ่ มีสภาพเป็นเมืองหลัก ที่ผ่านมาอุดรธานีทำงานเชิงรุก แม้มีผู้เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงจำนวนมาก และได้ดำเนินการ มาตรการปิดสถานบริการ สถานศึกษา  ถนนคนเดิน และงดการแสดงสินค้า เป็นเวลา 14 วัน . – สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย