เพิ่มอีก 35 คน ยอดป่วยโควิด-19 รวมสะสม 212 คน

สธ.18 มี.ค.-สธ.พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 35 คน ยอดป่วยสะสมพุ่ง 212 คนแล้ว ขณะที่พบผู้ป่วยหนักเพิ่มอีก 2 คนเป็นชาวไทย ต้องรับการฟอกไต และชาวเบลเยี่ยม มีภาวะปอดอักเสบ ทำให้ยอดผู้ป่วยวิกฤตรวม 3 คน ขณะเดียวกันแจงเจ็บป่วยโควิด-19 รักษาฟรี แต่ขอให้รักษายังสถานพยาบาลตามสิทธิ์ลดความแออัด กรณีจำเป็นต้องรักษา รพ.เอกชน ไม่ต้องจ่าย พร้อมเตรียมหารือกับกระทรวงพาณิชย์ วางหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน 


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 35 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่พบเป็นกลุ่มก้อน และมีการติดตามอยู่ได้แก่  กลุ่มที่ 1 มีจำนวน 29 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยในสนามมวย ลุมพินี และราชดำเนิน รวม 13 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชม เดินทางมาจากเชียงใหม่ ขอนแก่น สุโขทัย สมุทรปราการ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด  และ ผู้ป่วยที่เดินทางไปสถานบันเทิง ย่านทองหล่อ อีก 4 คน และที่เหลืออีก  12 คน เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มคนเหล่านี้ 


นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 6 คน ได้แก่ ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 1 คน มาจากประเทศกัมพูชา และผู้ที่ทำงานสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 คน ในจำนวนนี้มีนิติบุคคลคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งรวมอยู่ด้วย และรอการสอบสวนโรคอีก 1 คน อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า จำนวนของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเป็นผู้ที่ป่วยที่มีลักษณะกลุ่มก้อน ดังนั้นการเลี่ยงสถานที่แออัดหรือมีการชุมนุมของคนจำนวนมาก ทั้งนี้ยังพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก 2 คน เป็นคนไทย 1 คน เป็นชาวสุราษฎร์ธานี อายุ 45 ปี นอกจากมีอาการปวดกล้ามเนื้อ การทำงานของไตผิดปกติ ต้องมีรับการล้างไต รักษาตัวที่ รพ.ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 1 คน เป็นชาวเบลเยี่ยม อายุ 67 ปี ปอดอักเสบ และมีภาวะวิกฤตระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ได้รับยาต้ายไวรัสเรียบร้อย รักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรง รวม 3 คน

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า การให้ประชาชนตระหนักถึงระยะห่างทางสังคม การไม่สัมผัสใกล้ชิดกัน ในขณะนี้ถือว่ามีความจำเป็น เห็นได้จากกรณีการติดต่อของโควิด-19 ที่สนามมวย เจ็บป่วยต้องอยู่บ้าน กักตัวเอง 14 วันไม่สัมผัสใกล้ชิดคนอื่นไม่แพร่โรค เพราะทำให้ยอดจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นขอให้ผู้ที่เข้าไปในสนามมวยลุมพินีและราชดำเนิน ในระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม  และคนที่เดินทางไปสถานบันเทิง ใน กทม .ในระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ป่วยยืนยันจำนวนมาก ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง 14 วันด้วย หากมีไข้ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หรือระบบทางเดินหายใจพบแพทย์ 

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า การปิดสถานบันเทิงหรือสถานที่มีการเข้าไปร่วมกิจกรรมมากกว่า 50-100 คนขึ้นไป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยสนามมวย ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรวดเร็ว โดยขณะนี้ปิดใน กทม.และปริมณฑล ก่อน ส่วนในแต่ละจังหวัดจะมีการพิจารณาปิดสถานบันเทิงหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณา 


นพ.ธเรศ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายและผู้ป่วยเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน การรักษาพยาบาลให้รักษาฟรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จากการหารือร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ข้อสรุป 1.กรณีประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด -19 ให้เลือกรักษา พยาบาลตามสิทธิของตนเองก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด (ทั้งข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพ) 2.กรณีเป็นต่างชาติ ให้ใช้สิทธิประกันสุขภาพของตนเองก่อน ส่วนกรณีคนไทย หากต้องการใช้โรงพยาบาลเอกชนได้ กรณีใช้กรมธรรม์สุขภาพได้ตามปกติ แต่หากไม่มีกรรมธรรม์สุขภาพ ใช้กลไกการจ่ายแนวทางฉุกเฉินวิกฤต แบบ 3 กองทุนซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ยกร่างแนวทางการจ่ายเงิน หรืออาจใช้งบกลาง เพื่อมาดำเนินการ ยืนยันประชาชนที่ป่วยโควิด-19 มีผลยืนยันชัดเจน ไม่ต้องจ่าย ทางโรงพยาบาลจะเก็บใบเสร็จไว้แล้วมาเบิกกับรัฐบาลแทน 

นพ.โสภณ กล่าวว่า สถานการณ์การป่วยโควิด-19 ที่พบในขณะนี้มี212คน ร้อยละ 70 เป็นคนไทย ส่วนที่เหลือร้อยละ 30 เป็นชาวต่างชาติ มีทั้งคนจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และยุโรป  และส่วนใหญ่ของผู้ป่วยอยู่ในวัยทำงาน อายุระหว่าง 30-40 ปี ส่วนกรณีการพบผู้ป่วยคนไทย เดินทางกลับมาจากกัมพูชา ก็พบยังต้องมีการติดตามว่าไปในสถานที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากหรือไม่ เพราะจากข้อมูลมาจากปอยเปต สิ่งที่ต้องระวังในขณะนี้ อย่าให้มีคนสูงอายุป่วย จะมีอาการรุนแรงกว่าคนวัยทำงาน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]

ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้เวลา 24.00 น.

มาเลยเซีย 28 ก.ค.-ผลหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิงคืนนี้ เวลา 24.00 น. และกลับไปใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง แถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการประชุมพิเศษที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย รัฐบาลของประเทศมาเลเซีย กัมพูชา และไทย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ภายหลังจากการประชุมพิเศษที่จัดขึ้น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายกรัฐมนตรี ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม เป็นประธาน เจ้าภาพ และผู้ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรีสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด แห่งกัมพูชา และรองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย โดยมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่วมจัด และสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าร่วมอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมการแก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนด และรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ได้แสดงจุดยืนและความตั้งใจที่จะหยุดยิงโดยทันที และคืนสู่สภาวะปกติ ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อกับผู้นำของทั้งสองประเทศเพื่อเรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ ส่วนฝ่ายจีนก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับกัมพูชา ไทย มาเลเซีย และประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการเจรจา การหยุดยิง และการฟื้นฟูสันติภาพ การมีส่วนร่วมและความร่วมมือของทุกฝ่ายสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ […]

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย