เพิ่มอีก 35 คน ยอดป่วยโควิด-19 รวมสะสม 212 คน

สธ.18 มี.ค.-สธ.พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 35 คน ยอดป่วยสะสมพุ่ง 212 คนแล้ว ขณะที่พบผู้ป่วยหนักเพิ่มอีก 2 คนเป็นชาวไทย ต้องรับการฟอกไต และชาวเบลเยี่ยม มีภาวะปอดอักเสบ ทำให้ยอดผู้ป่วยวิกฤตรวม 3 คน ขณะเดียวกันแจงเจ็บป่วยโควิด-19 รักษาฟรี แต่ขอให้รักษายังสถานพยาบาลตามสิทธิ์ลดความแออัด กรณีจำเป็นต้องรักษา รพ.เอกชน ไม่ต้องจ่าย พร้อมเตรียมหารือกับกระทรวงพาณิชย์ วางหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน 


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ว่า พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 35 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่พบเป็นกลุ่มก้อน และมีการติดตามอยู่ได้แก่  กลุ่มที่ 1 มีจำนวน 29 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยในสนามมวย ลุมพินี และราชดำเนิน รวม 13 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชม เดินทางมาจากเชียงใหม่ ขอนแก่น สุโขทัย สมุทรปราการ นครราชสีมา กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด  และ ผู้ป่วยที่เดินทางไปสถานบันเทิง ย่านทองหล่อ อีก 4 คน และที่เหลืออีก  12 คน เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มคนเหล่านี้ 


นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 6 คน ได้แก่ ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 1 คน มาจากประเทศกัมพูชา และผู้ที่ทำงานสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 คน ในจำนวนนี้มีนิติบุคคลคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งรวมอยู่ด้วย และรอการสอบสวนโรคอีก 1 คน อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า จำนวนของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเป็นผู้ที่ป่วยที่มีลักษณะกลุ่มก้อน ดังนั้นการเลี่ยงสถานที่แออัดหรือมีการชุมนุมของคนจำนวนมาก ทั้งนี้ยังพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก 2 คน เป็นคนไทย 1 คน เป็นชาวสุราษฎร์ธานี อายุ 45 ปี นอกจากมีอาการปวดกล้ามเนื้อ การทำงานของไตผิดปกติ ต้องมีรับการล้างไต รักษาตัวที่ รพ.ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 1 คน เป็นชาวเบลเยี่ยม อายุ 67 ปี ปอดอักเสบ และมีภาวะวิกฤตระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ได้รับยาต้ายไวรัสเรียบร้อย รักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรง รวม 3 คน

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า การให้ประชาชนตระหนักถึงระยะห่างทางสังคม การไม่สัมผัสใกล้ชิดกัน ในขณะนี้ถือว่ามีความจำเป็น เห็นได้จากกรณีการติดต่อของโควิด-19 ที่สนามมวย เจ็บป่วยต้องอยู่บ้าน กักตัวเอง 14 วันไม่สัมผัสใกล้ชิดคนอื่นไม่แพร่โรค เพราะทำให้ยอดจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นขอให้ผู้ที่เข้าไปในสนามมวยลุมพินีและราชดำเนิน ในระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม  และคนที่เดินทางไปสถานบันเทิง ใน กทม .ในระหว่างวันที่ 9-10 มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ป่วยยืนยันจำนวนมาก ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง 14 วันด้วย หากมีไข้ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หรือระบบทางเดินหายใจพบแพทย์ 

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า การปิดสถานบันเทิงหรือสถานที่มีการเข้าไปร่วมกิจกรรมมากกว่า 50-100 คนขึ้นไป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ซ้ำรอยสนามมวย ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นรวดเร็ว โดยขณะนี้ปิดใน กทม.และปริมณฑล ก่อน ส่วนในแต่ละจังหวัดจะมีการพิจารณาปิดสถานบันเทิงหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณา 


นพ.ธเรศ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายและผู้ป่วยเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน การรักษาพยาบาลให้รักษาฟรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน จากการหารือร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ข้อสรุป 1.กรณีประชาชนเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด -19 ให้เลือกรักษา พยาบาลตามสิทธิของตนเองก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด (ทั้งข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพ) 2.กรณีเป็นต่างชาติ ให้ใช้สิทธิประกันสุขภาพของตนเองก่อน ส่วนกรณีคนไทย หากต้องการใช้โรงพยาบาลเอกชนได้ กรณีใช้กรมธรรม์สุขภาพได้ตามปกติ แต่หากไม่มีกรรมธรรม์สุขภาพ ใช้กลไกการจ่ายแนวทางฉุกเฉินวิกฤต แบบ 3 กองทุนซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ยกร่างแนวทางการจ่ายเงิน หรืออาจใช้งบกลาง เพื่อมาดำเนินการ ยืนยันประชาชนที่ป่วยโควิด-19 มีผลยืนยันชัดเจน ไม่ต้องจ่าย ทางโรงพยาบาลจะเก็บใบเสร็จไว้แล้วมาเบิกกับรัฐบาลแทน 

นพ.โสภณ กล่าวว่า สถานการณ์การป่วยโควิด-19 ที่พบในขณะนี้มี212คน ร้อยละ 70 เป็นคนไทย ส่วนที่เหลือร้อยละ 30 เป็นชาวต่างชาติ มีทั้งคนจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และยุโรป  และส่วนใหญ่ของผู้ป่วยอยู่ในวัยทำงาน อายุระหว่าง 30-40 ปี ส่วนกรณีการพบผู้ป่วยคนไทย เดินทางกลับมาจากกัมพูชา ก็พบยังต้องมีการติดตามว่าไปในสถานที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากหรือไม่ เพราะจากข้อมูลมาจากปอยเปต สิ่งที่ต้องระวังในขณะนี้ อย่าให้มีคนสูงอายุป่วย จะมีอาการรุนแรงกว่าคนวัยทำงาน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]