ผู้ว่าฯกทม.ปลุกใจชาวกรุง ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19

กทม.18 มี.ค.-ผู้ว่าฯ กทม.ปลุกใจชาวกรุงตระหนักแต่ไม่ตระหนก ฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมเข้าใจสาเหตุการประกาศใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อหยุดกิจกรรมของสถานที่รวมคนจำนวนมาก แม้มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กผู้ว่าฯอัศวิน ถึงวิกฤตโรคโควิด-19  โดยมีข้อความว่า 


“สวัสดีครับ พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร วันนี้ผมขอพูดคุยกับทุกท่านถึงวิกฤตที่พวกเราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ คือวิกฤต COVID-19 จำนวนผู้ป่วย COVID-19 ในปัจจุบันเริ่มมีการเพิ่มมากขึ้น  เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่ไม่แสดงอาการชัดเจน จึงสามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้รวดเร็ว และสิ่งที่สำคัญคือเมื่อมีการรวมตัวของคนจำนวนมาก เชื้อไวรัสจะสามารถแพร่ไปยังคนที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อได้ทีละหลายคนนั้น คือสาเหตุที่ กทม.ต้องออกมาตรการต่างๆ ในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายในวงกว้าง เช่น การยกเลิกจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การทำความสะอาดสถานที่สาธารณะที่ใช้ร่วมกัน และการให้ทุกคนช่วยกันคัดกรองผู้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อนี้ 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในช่วงแรก กทม.จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ปัจจุบันอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อมีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงหลังผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่จะติดเชื้อจากการไปสถานที่ที่มีคนอยู่กันหนาแน่น มากกว่าการติดเชื้อของผู้ใกล้ชิดกับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ


ดังนั้น ผมจึงขอใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ข้อ 35 (1) สถานที่ซึ่งผู้คนมีการรวมตัวเบียดเสียดใกล้ชิด และเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อง่ายทางปาก (ตะโกน เชียร์) สัมผัสถูกเนื้อต้องตัวหรือใช้สิ่งของร่วมกันง่าย โดยเริ่มจาก

1.สนามมวย

2 สถานบริการ เช่น ผับ บาร์

3.กิจการ อาบอบนวด

4.สถานที่อาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร

5.กิจการโรงมหรสพ 

6.สถานที่ออกกำลังกายที่เป็นพื้นที่ปิด

และขอความร่วมมือจากทุกองค์กร ทุกหน่วยงาน ให้ยกเลิกกิจกรรมที่จัดให้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน ส่งเสริมค่านิยมการเว้นระยะ 1 – 2 เมตร และที่สำคัญคือ หมั่นล้างมืออย่างถูกวิธี

ผมเข้าใจดีว่า การที่เราหยุดกิจกรรมต่าง ๆ อาจทำให้คุณค่าทางเศรษฐกิจเสียหาย แต่ขอให้เราคำนึงถึงคุณค่าของชีวิตมาก่อน เพราะถ้าเราทุกคนสามารถผ่านสถานการณ์ได้ เศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมออกมาพูดกับทุก ๆ ท่านในวันนี้ ไม่ต้องการให้ทุก ๆ ท่าน ตื่นตระหนก แต่พวกเราทุกคนต้องอยู่ด้วยความตระหนัก เพราะความตระหนักคือทางเดียวที่เราจะแก้ไขปัญหานี้ได้ และผมเชื่อว่า เราจะสามารถฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน 

นอกจากนี้ผู้ว่าฯกทม.ยังโพสต์อีกข้อความว่า อีกหนี่งมาตรการสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คือ การกักตัวในที่พักอาศัยเพื่อกักกันโรค หรือ Home Quarantine เป็นเวลา 14 วัน ในกลุ่มของผู้ที่เข้าข่ายติดเชื้อสูง ได้แก่ ผู้ที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด ซึ่งคน 2 กลุ่มนี้ อาจจะมีอาการหรือไม่มีอาการป่วยในทันที แต่ถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และจะต้องทำการกักตัวในที่พักอาศัย เพื่อสังเกตอาการของโรค ซึ่งกทม.มีข้อแนะนำการปฏิบัติตัวมาฝากครับ

ในสถานการณ์การระบาดที่ขยายวงกว้างมากขึ้น เราต้องร่วมมือกันครับ เพราะถือเป็นการรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคม เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ไปสู่คนในครอบครัวและคนอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในระยะนี้ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการไปตรวจค้นหาโรคด้วยครับ แต่หากพบว่ามีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ หรือแจ้งศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ในพื้นที่ทันทีครับ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ