ภูมิภาค 18 มี.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่ภาคตะวันออกติดตามสถานการณ์น้ำ ขอบคุณชาวเมืองจันท์ปันน้ำ ร่วมแก้ภัยแล้ง พร้อมย้ำการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำสำรอง.
เมื่อเวลา 10.00 น. (18 มี.ค.) ที่มณฑลทหารบกที่ 14 ค่ายนวมินทราชินี อ.เมือง จ.ชลบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางป้องกันแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก จากนั้นจะลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำบางพระ อ.ศรีราชา โดยมีนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พร้อมผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี จันทบุรี และระยอง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กอนช.ประเมินสถานการณ์น้ำเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC พบว่ายังมีหลายพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ จึงกำหนดมาตรการเร่งด่วนบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ โดยหนึ่งในมาตรการก็คือความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาคอุตสาหกรรมและประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำและลดการใช้น้ำลง 10% จากการติดตามความคืบหน้าทุกส่วนร่วมมือดี ทำให้ภัยแล้งเบาบางลงและชะลอการเกิดผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงไปได้มาก นอกจากนี้ ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี คณะกรรมการลุ่มน้ำสาขาวังโตนด ชาวจันทบุรี สทนช. กรมชลประทาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันปันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกด จ.จันทบุรี ให้แก่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จ.ระยอง จำนวน 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนช่วยเหลือพื้นที่ จ.ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ตลอดฤดูแล้งปีนี้
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า กอนช.ยังกำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ EEC มีเพียงพอจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63 โดยเชื่อมโยงโครงข่ายเติมน้ำใน 3 อ่างเก็บน้ำหลักในพื้นที่ระยองและชลบุรี รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติและแหล่งน้ำสำรอง.-สำนักข่าวไทย