สธ.พบผู้ป่วยโควิด-19เพิ่ม 32 ราย เกี่ยวข้องสนามมวย 9 ราย

ก.สาธารณสุข 15 มี.ค. – สธ.แถลง พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 32 ราย เกี่ยวข้องกับสนามมวย 9 ราย พรุ่งนี้(16 มี.ค.)เตรียมจัดทำแผนที่ เปิดเผยสถานที่ติดเชื้อต่อสาธารณะ พร้อมเอาจริงเตรียมเสนอรัฐบาล ลดจำนวนคนเข้าประเทศ และปิดสถานบันเทิง


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เปิดเผยว่า วันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันเพิ่ม 32 ราย ที่มีความสัมพันธ์กับสถานที่ต่างๆ ดังนี้ 


กลุ่มที่ 1 เชื่อมโยงกับสนามมวย                               จำนวน 9 ราย

กลุ่มที่ 2 เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง                           จำนวน 8 ราย 

(เป็นกลุ่มสถานบันเทิงเดิมย่านทองหล่อที่พบก่อนหน้านี้ 3 คน //ส่วนอีก 5 คน เป็นอีกกลุ่มในสถานบันเทิงใหม่ในละแวกเดียวกัน)


กลุ่มที่ 3 ทำงานสัมผัสกับกลุ่มนักท่องเที่ยว               จำนวน 3 ราย

(เป็นกลุ่มทำงานที่สัมผัสกับนักท่องเที่ยวที่สนามบินสุวรรณภูมิ 3 คน เป็นจนท.ตม. พนักงานร้านอาหาร //พนักงานบริษัทสุวรรณภูมิ )

กลุ่มที่ 4 ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ                    จำนวน 7 ราย

กลุ่มที่ 5 เป็นผู้สัมผัสเจ้าของร้านอาหารที่ติดเชื้อ         จำนวน 2 ราย

กลุ่มที่ 6 อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนโรค               จำนวน 3 ราย

และมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 6 กลุ่มที่ยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ    จำนวน 51 ราย

โดยมีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายไทย อายุ 29 ปี และหญิงไทย อายุ 22 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร 

สรุปมีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 37 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 76 ราย  เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 114 ราย

ปลัด สธ. กล่าวอีกว่า สำคัญสถานที่ ที่มีคนหนาแน่น แออัด เช่น ผับ สนามมวย ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงและงดไปในสถานที่ดังกล่าว  รวมถึงขอความร่วมมือในการงดเดินทางไปดูงานต่างประเทศ  

นอกจากนี้ ได้รับรายงาน ผู้ที่เดินทางจากอิตาลีที่สัตหีบ 83 คน มีนักเรียนแลกเปลี่ยน 78 คน คนไทย 3 คน พนักงานสายการบิน 2 คน พบ 6 คน ไอและมีน้ำมูก ได้นำสู่กระบวนการตรวจสอบแล้ว ส่วนที่เหลือ เฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วันที่อาคารับรองฐานทัพเรือสัตหีบ 

โดยพรุ่งนี้(16 มี.ค.) ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค จัดทำแผนที่ สถานที่ต่างๆที่พบผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์และดูกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงได้ เพื่อยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น ขณะนี้การติดตามดูแลผู้ป่วย ได้ยกระดับโดยพัฒนาแล็บเพิ่มขึ้น ยืนยันว่าการตรวจแล็ป หากมีอาการต้องสงสัย เป็นกลุ่มเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด เช่น  ทำงานสัมผัสใกล้ชิดกับต่างชาติ กลับมาจากต่างประทศ เป็นโรคทางเดินหายใจ ไข้ ไอ การตรวจไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 

รวมถึงกำลังหารือ กับโรงพยาบาลเอกชน  ในการตรวจเชื้อโควิด-19 หากตรวจพบที่เอกชน ให้รักษาจนหาย โดยไม่ต้องย้ายผู้ป่วย และรักษาฟรี โดยกำลังปรับเกณฑ์ดังกล่าว หากป่วยเป็นโควิด-19 สามารถรักษาที่  รพ.เอกชนได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 

และพรุ่งนี้กระทรวงสาธารณสุข ตรียมเสนอ 3 แนวทาง ต่อนายกรัฐมนตรี คือ 1.ลดจำนวนคนเดินทางเข้าประทศ 2.ปิดสถานบริการสถานบันเทิงที่มีความแออัด 3.งดกิจกรรมคนหมู่มาก 

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ติดเชื้อโควิด-19 จากสนามมวยลุมพินี  รวมทั้ง สส.พรรคพลังประชารัฐ ติดเชื้อนั้น กระทรวงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเป็นสิทธิผู้ป่วย  

ด้าน นพ. ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หากใครมีประวัติไปสนามมวย ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หากมีอาการไข้ ให้เฝ้าสังเกตอาการและให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นและไปตรวจทันที หากเป็นหวัดในขณะนี้ไม่ว่าจะเบาแค่ไหนขอให้หยุดอยู่บ้าน อย่าเปิดช่องให้แพร่เชื้อ

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ผู้ป่วยที่พบในประเทศขณะนี้ ยังเป็นผู้ป่วย2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และกลุ่มที่สัมผัสกับชาวต่างประเทศ และคนป่วย เผยแพร่โรคผ่านกิจกรรมและความสัมพันธ์ใกล้ชิดผู้ป่วย  ทั้งนี้ได้รับข้อมูลว่า สถานบันเทิง และผับต่างๆ ที่พบว่ามีความเสี่ยง หลังพบมีการติดเชื้อไม่ต่ำกว่า10 แห่ง ได้หยุดให้บริการไม่น้อยกว่า 3 วัน และทำความสะอาดฆ่าเชื้อแล้วด้วย 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ตอนนี้กระบวนการตรวจแล็บ หาเชื้อโควิด-19ในประเทศไทย ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับรอง มีอย่างน้อย 35 แห่ง โดยที่รพ.รามาธิบดี มีการตรวจมากที่สุด ถึง 1,000 รายต่อวัน และหลังจากนี้จะพยายามให้มีเพิ่มเติมอย่างน้อยจังหวัดละ1 แห่ง ยืนยันว่า หากอยู่ในข่ายสอบสวนโรคตรวจฟรี . -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : “คลิปเสียง” อาวุธทางการเมืองในกัมพูชา

กัมพูชา 19 มิ.ย. – กรณีคลิปเสียงที่นายฮุน เซน เปิดเผยออกมา หลายท่านคงสงสัยว่า เขาเคยใช้วิธีนี้กับใครอีกหรือไม่ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามการปล่อยคลิปเสียงในฐานะเครื่องมือทางการเมืองในกัมพูชา. – สำนักข่าวไทย

รทสช.มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติพรรคคุยนายกฯ ก่อน

รทสช. 19 มิ.ย.- “รวมไทยสร้างชาติ” ยังไม่เผยมติพรรค มอบหมาย “พีระพันธุ์” นำมติคุยนายกฯ ก่อน หลังมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองเกือบ 2 ชม. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล นายชื่นชอบ คงอุดม นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เข้าร่วมประชุม ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย ติดภารกิจ ส่วนนายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วม ซึ่งทั้งนายเกรียงยศ และนายเกชา อยู่กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค จากนั้นเวลา 19.00 น. นายพีรพันธุ์ เดินทางออกจากพรรค […]

มทภ.2 ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยน มุ่งป้องกันประเทศทุกวิถีทาง

นครราชสีมา 19 มิ.ย. – ท่วมท้น! กำลังใจหลั่งไหลสู่ “พล.ท.บุญสิน” และทหารชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ ลั่นทหารยังเป็นเสาหลักไม่เปลี่ยนแปลง มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทาง ขอให้ประชาชนไว้วางใจ ช่วงบ่ายวันนี้ (19 มิ.ย.68) ที่สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา สถานศึกษาและบริษัทเอกชน นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และส่งต่อธารน้ำใจไปยังทหารที่ประจำอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ นักเรียนจากโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ยังนำข้อความจากใจของนักเรียนที่เขียนให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 มามอบให้ด้วย ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และบอกว่าจะรีบนำสิ่งของไปมอบให้โดยเร็ว พร้อมยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฝ่ายบริหารก็แก้ปัญหาทางการเมือง ส่วนความมั่นคงของชาติ ทั้ง 3 เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นป้องกันประเทศชาติทุกวิถีทางที่จะไม่ให้เสียดินแดน ขอให้พี่น้องประชาชนไว้วางใจ สิ่งที่ตนพูดไปแล้วก็ตามนั้น. – สำนักข่าวไทย

“ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล มองเป็นการสนทนา “อา-หลาน”

พรรคชาติ​ไทย​พัฒนา​ 19​ มิ.ย.-“วราวุธ” ประกาศชัด “ชาติไทยพัฒนา” ยังไม่ถอนตัว บอกช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ รัฐบาลต้องมีความมั่นคงทางอธิปไตย มองคลิปเสียงเป็นการสนทนาระหว่าง “อา-หลาน” แต่ไม่รู้เจตนาคนปล่อย ขอคุยนายกฯ ก่อนเสนอที่ประชุมพรรคเคาะอีกครั้ง นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา​ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับ สส.​ของพรรค และประธานคณะกรรมการดำเนินงานของพรรค เกือบ 2 ชั่วโมง ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อคิดและข้อเสนอที่หลากหลาย แต่ทุกคนลงความเห็นในทางเดียวกันว่าในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้และการตัดสินใจที่ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดเมื่อไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อว่าอธิปไตยของประเทศและความมั่นคงของประเทศคือสิ่งสำคัญที่สุดและไม่ควรตกอยู่ในสภาวะเสี่ยง พรรคและสมาชิกพรรคจึงเห็นว่าควรสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงให้รัฐบาลทำให้เกิดความมั่นคงในอธิปไตยของประเทศ และได้มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นตัวแทนไปพูดคุยหารือกับนายกรัฐมนตรีในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและมีแนวทางอย่างไร หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมและครบถ้วนแล้วจะนำมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคต่อไป นายวราวุธ ยืนยันชัดเจนว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะยังไม่ถอนตัวจากรัฐบาล เพราะความเข้มแข็งของรัฐบาลที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับอธิปไตย เราได้ยินคลิปการพูดคุยสนทนา แต่ไม่รู้ถึงวัตถุประสงค์ในการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว แน่นอนในโลกโซเชียลอาจจะบอกว่าชัดขนาดนี้แล้วจะคิดอะไรอยู่อีก แต่การตัดสินใจทำงานในรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศเราเอามาเสี่ยงไม่ได้การทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พรรคชาติไทยพัฒนามองว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อถามว่าจะให้รัฐบาลมากน้อยแค่ไหนนั้น นายวราวุธ กล่าวว่าทุกพรรคคงอยากจะหาทางออกให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุดเพราะความมั่นคงของประเทศไม่ควรตกอยู่ในความจำเสื่อม เชื่อว่าจะมีการพูดคุยกันโดยเร็ว เมื่อถามว่าการจับมือกับนายกฯ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายวรวุธ กล่าวว่า […]