สมุทรปราการ 13 มี.ค. – รอง ผอ.สุวรรณภูมิยัน “น.ท.สุธีรวัฒน์ “ ลาออกยังไม่มีผล ต้องเสนอบอร์ด ทอท.พิจารณาก่อน พร้อมสรุปรายงานการคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยกรณี น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ ยื่นใบลาออกนั้น เป็นความจริง ซึ่งการลาออกของเจ้าหน้าที่รัฐมีขั้นตอนการพิจารณา หลังจากนี้ใบลาออกจะต้องส่งให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.
ขณะที่วันนี้ น.ท.สุธีรวัฒน์ อยู่ระหว่างการลาตามสิทธิ์และยังถือเป็นพนักงานของ ทอท. โดยส่วนตัวได้ทำงานร่วมกับ น.ท.สุธีรวัฒน์ แต่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล ยอมรับว่าการทำงานเบื้องต้นอาจจะมีการติดขัดบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการทำงาน ยืนยันไม่ได้รับแรงกดดันจากพรรคการเมืองใด ๆ
นายกิตติพงศ์ เปิดเผยผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 13 มีนาคม 2563 (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มี.ค.63 เวลา 08.00 น. – วันที่ 13 มี.ค63 เวลา 08.00 น.) ของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID – 19) ว่า สรุปจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 690 เที่ยวบิน โดยเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 461 เที่ยวบิน แบ่งเป็นขาออก 227 เที่ยวบิน และขาเข้า 234 เที่ยวบิน ด้านเที่ยวบินภายในประเทศ 229 เที่ยวบิน แบ่งเป็นขาออก116 เที่ยวบิน และขาเข้า 113 เที่ยวบินด้านจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 70,787 คน ซึ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 47,825 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก 28,446 คน และผู้โดยสารขาเข้า 19,379 คน ด้านผู้โดยสารภายในประเทศ 22,962 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก 10,211 คน และผู้โดยสารขาเข้า 12,751 คน
ทั้งนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ 19,379 คน มีผู้โดยสารที่เป็นไข้ มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา 1 ราย โดยวันที่ 12 มีนาคม มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี 3 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 1 เที่ยวบิน KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) มีจำนวนผู้โดยสาร 226 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทย 45 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) 29 คน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์และป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2563 ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายกรณีกรณีโรคติดต่อเชื้อโควิด-19 ในราชกิจจานุเบกษา ได้แก่ เกาหลี จีน ฮ่องกง มาเก๊า อิตาลี และอิหร่าน ต้องกรอกข้อมูลแบบฟอร์ม ต.8 ผ่าน แอปพลิเคชั่น AOT Airports สามารถเก็บข้อมูลเพื่อติดตามผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในประเทศผ่านทางแอปพลิเคชั่น รวมทั้งสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 หากพบว่ามีการติดโรคภายหลังผ่านเข้าประเทศจะได้ติดตามตัวผู้ป่วยและผู้ที่เดินทางมาร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว . – สำนักข่าวไทย
