สธ.13 มี.ค.-สธ.พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 5 คนเป็นกลุ่มก้อนเดิมการระบาดในกลุ่มทองหล่อ 2คนและติดต่อใกล้ชิดจากผู้ป่วยเก่าอีก 3 คน แจงสาเหตุไม่เปิดเผยเส้นทางผู้ป่วย ย้ำสถานที่ไม่ผิด ผิดที่คนป่วยไม่อยู่บ้านเฝ้าระวัง หรือกลับมาจากสถานที่เสี่ยงไม่เฝ้าระวัง สังคมควรเข้าใจให้ตรงจุด บอกไปทำตัวเหมือนเดิมไม่เกิดประโยชน์ เตรียมปลดจีนออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังสถานการณ์ดีขึ้น จับตายุโรป ด้านผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ป้องกันฯ แนะชุมชนร่วมคัดกรองคนป่วยในคอนโดมิเนียม เพิ่มการระวัง พร้อมเลี่ยงเดินทางต่างประเทศ
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) เปิดเผยสถานการณ์ป่วยติดเชื้อโรคโควิด -19 ว่าวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 5 คน เป็น กลุ่มคนไทยที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้ป่วยเดิม ซึ่งเป็นการติดแบบกลุ่มก้อน โดย 2 คนแรกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ จากกลุ่มปาร์ตี้ทองหล่อ หญิง 1 คน ชาย 1 คน ส่วนอีก 3 คน เป็นกลุ่มผู้ป่วย ที่ใกล้ชิดกับหญิงป่วยเดิม ในรายที่ 57 ที่กลับมาจากไปศัลยกรรมในเกลาหลีใต้ โดยพบว่า การติดในครอบครัวใกล้ชิดเป็นน้องชาย และเพื่อนชาย และหญิง และพบว่า มีพฤติกรรมไปท่องเที่ยวสถานบันเทิงอีกด้วย ดังนั้น รวมป่วย 75 คน
นพ.สุขุม กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากสถานการณ์การป่วยในระดับพบว่า มีการปรับตัว อัตราการป่วยพบเพิ่มสูงในพื้นที่ยุโรป ขณะเดียวกันพื้นที่การ ระบาดในจีนก็ลดลง ดังนั้นจึงอาจมีการพิจารณาปรับลดพื้นที่เฝ้าระวังใน 4 ประเทศ แต่ในขณะนี้ต้องย้ำว่าให้ประชาชนเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ยุโรป 16 ประเทศ เนื่องจากพบผู้ป่วยเพิ่มเฉลี่ยวันละ 100 คน และมีอัตราป่วยสะสมมากกว่า 500 คน หากเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ขอให้เฝ้าระวังตนเอง 14 วัน การพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มประเทศไม่ใช่อำนาจของกระทรวงสาธารณสุข แต่ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณา
ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัยแบบ N95 คาดว่าจะสามารถจัดซื้อหน้ากากอนามัยจำนวน 4 หมื่นชิ้น สามารถกระจายให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ได้อย่างเพียงพอ ในวันพรุ่งนี้(14มี.ค.) พร้อมเตรียมนำเข้า และขอการสนับสนุนเรื่องหน้ากากอนามัย จากประเทศจีนเพิ่ม ทั้งหน้ากากอนามัย 180 ล้านชิ้น และหน้ากากแบบ N 95 อีก 1ล้านชิ้น ชุดป้องกัน PPE อีก 1 แสนชุด เพื่อใช้ป้องกันโรค หลังจากสถานการณ์ในจีนดีขึ้น
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคกล่าวว่า จากกรณีที่มีการเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลเส้นทางของกลุ่มผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้ทำให้ประชาชนตระหนัก เพราะความจริงแล้วสถานที่ไม่ได้ผิด แต่คนต่างหากที่เดินทางไป หากมีพฤติกรรมที่เหมาะสม รู้ตัวว่าเดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่ไปคลุกคลีใกล้ชิดคนอื่นจะติดหรือไม่ และหากไม่ออกไปเที่ยวจะทำให้คนอื่นติดหรือไม่ ควรปรับเรื่องของพฤติกรรมเป็นหลัก การบอกสถานที่ แหล่งที่มาไม่ช่วย เพราะท้ายสุดคนเดินทางป่วยก็ติดได้ในทุกพื้นที่ อีกทั้งแหล่งที่พบคนป่วยก็มี การทำความสะอาดสกรีนตัวเองอยู่แล้ว
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อมูลในขณะนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจการระบาดของไทย อยู่ในระยะ 2 การระบาดในระยะ 3 หมายถึงมีการติดต่อในวงกว้างหลายจังหวัดหลายอำเภอในพื้นที่ มีระบาดติดต่อเกิน 4 รุ่นขึ้นไป แบบในยุโรปที่มีการระบาดแบบจับต้นชนปลายไม่ได้ และเรียกร้องให้ในทุกชุมชน ร่วมกันเฝ้าระวังเคสผู้ป่วยเพิ่ม ช่วยป้องกันโควิด-19 เช่น ทุกคอนโดมิเนียม มีคณะกรรมการชุมชนอยู่แล้ว นอกจากมีเจลล้างมือบริการแล้วยังต้องมีบริการตรวจวัดไข้ คนเข้าออกมาในชุมชนเพื่อช่วยกันดูแล เรื่องนี้ต้องจริงจัง พร้อมสนับสนุนให้ยกเลิกเดินทางไปต่างประเทศ ทุกประเทศ เพราะขณะนี้ทั่วโลกกว่า 193 ประเทศ แต่พบการระบาดไปแล้วกว่า 120 ประเทศ อย่าได้เสียดายเงิน ยกเลิกการเดินทาง เพราะไปเที่ยวก็ไม่สนุก ถูกกักตัวทุกพื้นที่ หน้ากากอนามัย มีความจำเป็นเมื่อป่วย ไม่ป่วยสวมหน้ากากผ้าซักได้มากกว่า 100 ครั้ง พร้อมสนับสนุนให้ทุกร้านอาหารปรับตัวหลังเจอบทเรียนกลุ่มทองหล่อ เหมือนที่จีนทำ ความห่างของโต๊ะอาหารมีความสำคัญ ระยะห่าง ลดความแออัด ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น -สำนักข่าวไทย