รพ.ราชวิถี 12 มี.ค.- นายกฯ ย้ำ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทย ยังอยู่ในระยะ 2 ยืนยัน ยกเลิก VOA 18 ประเทศ มีผลวานนี้ ไม่ต้องนำเข้า ครม. เพราะใช้กฏกระทรวง เตือนดารา-ไฮโซ เดินทางกลับจากต่างประเทศ ต้องรับผิดชอบสังคม กักตัวเอง 14 วัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาลราชวิถี ในการรองรับการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะหากสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดยกระดับขึ้น ว่า จากที่ฟังรายงานของคณะแพทย์ และเช็คข้อมูลจากต้นทาง รวมถึง ขั้นตอนการคัดแยก การรักษาจนบางรายรักษาหาย ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังสามารถควบคุมได้ แม้ว่าจะมีการขยายจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในแต่ละวัน ก็เป็นเรื่องปกติ และแสดงว่าสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง สำคัญที่สุดคือ เมื่อทุกคนรู้ว่าตัวเองไม่สบาย ต้องมาพบแพทย์ และหากพบว่าเลือดเป็นบวก แพทย์ก็จะติดตามข้อมูลย้อนหลังด้วย
“ขอยืนยันอีกครั้งว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย ยังไม่ถึงระยะที่ 3 แม้สถิติในต่างประเทศจะสูงขึ้น แต่ถือว่าประเทศไทยสามารถทำได้ดีมาก แต่ประชาชนก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตราการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งการคัดกรองคัดแยก การรักษาพยาบาล ไปจนถึงการส่งตัวกลับบ้าน และการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทุกมาตรการมีขั้นตอน รวมถึง มีกฎหมายที่ให้เจ้าพนักงานไปตรวจ ติดตามผู้ที่ถูกกักตัวที่บ้าน และรายงานตัวทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง มีแอปพปลิเคชั่นติดตามตัว ทุกอย่างเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องทำให้รัดกุมที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เช้าวันนี้ (12 มี.ค.) มีการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อจากการประชุมเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) จึงขอให้ทุกคนสบายใจว่า ที่รัฐบาลทำในการยกเลิก Visa On arrival รวมถึง Free Visa และในส่วนอื่นๆ เป็นมาตรการสำหรับประเทศมีข้อตกลง ส่วนประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะ 4 ประเทศเสี่ยงที่ได้ประกาศไปแล้วก็มีการเข้มงวด โดยตรวจตั้งแต่ต้นทางและตรวจซ้ำที่สนามบิน รวมถึง การแยกตัวมารักษาสังเกตอาการ
“เราทำครบทั้งระบบ หลายคนกังวลว่า มีมาตรการเข้มข้นเพียง 18 ประเทศ ที่ยกเลิก Visa on arrival หรือไม่ ยืนยันว่าในประเทศอื่นๆ ก็คัดกรองเข้มข้นด้วย ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ที่เดินทางเข้าไทยลดลง” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ได้รับการรายงานว่า 1-2 วันนี้ ขณะนี้เที่ยวบินที่เดินทางเข้ามาลดลง 100-200 เที่ยวบิน ผู้ที่เข้ามาในประเทศไทย เหลือเพียงวันละกว่า 1,000 คน จากเดิมวันละ 6,500 คน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคนเข้า-ออกหลายกลุ่ม แม้จะมีการคัดกรองอย่างเข้มข้น เช่น บางส่วนที่เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ แล้วยังไม่กลับเข้ามา
ต่อกรณีที่ประชาชนยังสับสนการให้ข้อมูลของรัฐบาลที่ไม่ตรงกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน อาจจะเป็นการพูดไม่ครบถ้วน เช่น คำว่าปิดหรือเปิดศูนย์ อย่าไปสนใจตรงนี้ ศูนย์ยังคงมีอยู่ในทุกพื้นที่ รวมถึง สถานที่ที่เตรียมไว้หลายแห่ง หากบางศูนย์ไม่มีคนแล้ว ก็ต้องหยุดปฏิบัติงาน แต่ยังคงต้องเตรียมพร้อมเปิดใช้ทันที หากสถานการณ์ร้ายแรงกว่านี้
“มาตรการการยกเลิก Visa on arrival 18 ประเทศได้เริ่มต้นไป และมีผลไปแล้วตามที่ประกาศยกเลิกวานนี้ โดยไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะถือเป็นกฎกระทรวง กระทรวงมหาดไทยสามารถประกาศใช้ได้เลย แต่ทั้งหมดต้องขออนุมัติมาที่ผม ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามถึง ปัญหาระหว่างกรมศุลกากรและกรมการค้าภายใน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังพูดคุยกันอยู่ ทุกเรื่องต้องการชี้แจง ไม่ว่าจะเรื่องของเพจต่างๆ ตนชื่นชมทุกเพจที่ทำประโยชน์ในการชี้ข้อสังเกตต่างๆ แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีป้องกันให้เพจไม่ได้ คือการไปกล่าวอ้างชื่อ เพราะเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายจะฟ้อง
“ไม่ใช่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีชม แล้วไม่ต้องฟ้อง แต่ถ้าใครทำให้เกิดประโยชน์ นายกรัฐมนตรีก็ชมทุกเพจ หลายเพจก็มีความตั้งใจ แต่ต้องระมัดระวังการกล่าวอ้างชื่อบุคคล เพราะมีสิทธิฟ้องตามกฎหมายต้องระมัดระวังด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ว่า ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะมีหลายกระแส บางคนต้องการให้มีการจัด บางคนไม่ต้องการ จะต้องดูความต้องการของประชาชน โดยรัฐบาลมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ว่ามีความเหมาะสมและไม่เหมาะสมอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อใส่ที่ตัวประชาชนโดยตรง ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมแพทย์ระบุว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ควรจะพ่นโดยรอบพื้นที่ และหากประชาชนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็ไม่ควรที่จะเดินเข้าไปในบริเวณนั้น ต้องดูอะไรที่เหมาะสม ต้องรู้ว่าอะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ ขออย่าให้เกิดผลกระทบขึ้น และว่า ขออย่าไปขยายความในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
นายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงดารา ไฮโซ เชเลป ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ว่า แม้จะผ่านการคัดกรอง แต่ต้องกักตัวเอง 14 วัน ไม่ใช่ไปแพร่เชื้อ แล้วมีปัญหา และว่า “ผมขอร้อง ไม่ได้ตำหนิ แต่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน” นอกจากนี้ ต้องคุมเข้มสถานบันเทิง สถานที่จัดงาน ต้องมีมาตราการคัดกรอง เพื่อให้มั่นใจในการเข้าไปใช้บริการ .- สำนักข่าวไทย