นายกฯ ย้ำ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทย ยังอยู่ในระยะ 2

รพ.ราชวิถี 12 มี.ค.- นายกฯ ย้ำ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทย ยังอยู่ในระยะ 2  ยืนยัน ยกเลิก VOA 18 ประเทศ มีผลวานนี้ ไม่ต้องนำเข้า ครม. เพราะใช้กฏกระทรวง เตือนดารา-ไฮโซ เดินทางกลับจากต่างประเทศ ต้องรับผิดชอบสังคม กักตัวเอง 14 วัน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาลราชวิถี ในการรองรับการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะหากสถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดยกระดับขึ้น ว่า   จากที่ฟังรายงานของคณะแพทย์ และเช็คข้อมูลจากต้นทาง รวมถึง ขั้นตอนการคัดแยก การรักษาจนบางรายรักษาหาย ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังสามารถควบคุมได้ แม้ว่าจะมีการขยายจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในแต่ละวัน ก็เป็นเรื่องปกติ และแสดงว่าสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง  สำคัญที่สุดคือ เมื่อทุกคนรู้ว่าตัวเองไม่สบาย ต้องมาพบแพทย์ และหากพบว่าเลือดเป็นบวก  แพทย์ก็จะติดตามข้อมูลย้อนหลังด้วย


“ขอยืนยันอีกครั้งว่า การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย ยังไม่ถึงระยะที่ 3 แม้สถิติในต่างประเทศจะสูงขึ้น แต่ถือว่าประเทศไทยสามารถทำได้ดีมาก แต่ประชาชนก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว   

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตราการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งการคัดกรองคัดแยก การรักษาพยาบาล ไปจนถึงการส่งตัวกลับบ้าน และการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทุกมาตรการมีขั้นตอน รวมถึง มีกฎหมายที่ให้เจ้าพนักงานไปตรวจ ติดตามผู้ที่ถูกกักตัวที่บ้าน และรายงานตัวทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง มีแอปพปลิเคชั่นติดตามตัว  ทุกอย่างเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องทำให้รัดกุมที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า   เช้าวันนี้ (12 มี.ค.) มีการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อจากการประชุมเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) จึงขอให้ทุกคนสบายใจว่า  ที่รัฐบาลทำในการยกเลิก Visa On arrival รวมถึง Free Visa  และในส่วนอื่นๆ เป็นมาตรการสำหรับประเทศมีข้อตกลง ส่วนประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะ 4 ประเทศเสี่ยงที่ได้ประกาศไปแล้วก็มีการเข้มงวด โดยตรวจตั้งแต่ต้นทางและตรวจซ้ำที่สนามบิน รวมถึง การแยกตัวมารักษาสังเกตอาการ


 “เราทำครบทั้งระบบ หลายคนกังวลว่า มีมาตรการเข้มข้นเพียง 18 ประเทศ ที่ยกเลิก Visa on arrival หรือไม่ ยืนยันว่าในประเทศอื่นๆ ก็คัดกรองเข้มข้นด้วย ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ที่เดินทางเข้าไทยลดลง” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ได้รับการรายงานว่า 1-2 วันนี้ ขณะนี้เที่ยวบินที่เดินทางเข้ามาลดลง 100-200 เที่ยวบิน    ผู้ที่เข้ามาในประเทศไทย เหลือเพียงวันละกว่า 1,000 คน จากเดิมวันละ 6,500 คน   อย่างไรก็ตาม ยังคงมีคนเข้า-ออกหลายกลุ่ม แม้จะมีการคัดกรองอย่างเข้มข้น เช่น บางส่วนที่เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ แล้วยังไม่กลับเข้ามา

ต่อกรณีที่ประชาชนยังสับสนการให้ข้อมูลของรัฐบาลที่ไม่ตรงกัน  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน อาจจะเป็นการพูดไม่ครบถ้วน เช่น คำว่าปิดหรือเปิดศูนย์ อย่าไปสนใจตรงนี้ ศูนย์ยังคงมีอยู่ในทุกพื้นที่ รวมถึง สถานที่ที่เตรียมไว้หลายแห่ง หากบางศูนย์ไม่มีคนแล้ว ก็ต้องหยุดปฏิบัติงาน แต่ยังคงต้องเตรียมพร้อมเปิดใช้ทันที หากสถานการณ์ร้ายแรงกว่านี้  

“มาตรการการยกเลิก Visa on arrival 18 ประเทศได้เริ่มต้นไป และมีผลไปแล้วตามที่ประกาศยกเลิกวานนี้ โดยไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะถือเป็นกฎกระทรวง กระทรวงมหาดไทยสามารถประกาศใช้ได้เลย แต่ทั้งหมดต้องขออนุมัติมาที่ผม ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึง ปัญหาระหว่างกรมศุลกากรและกรมการค้าภายใน  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังพูดคุยกันอยู่  ทุกเรื่องต้องการชี้แจง ไม่ว่าจะเรื่องของเพจต่างๆ  ตนชื่นชมทุกเพจที่ทำประโยชน์ในการชี้ข้อสังเกตต่างๆ แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีป้องกันให้เพจไม่ได้ คือการไปกล่าวอ้างชื่อ เพราะเป็นสิทธิที่ผู้เสียหายจะฟ้อง 

“ไม่ใช่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีชม แล้วไม่ต้องฟ้อง แต่ถ้าใครทำให้เกิดประโยชน์ นายกรัฐมนตรีก็ชมทุกเพจ  หลายเพจก็มีความตั้งใจ แต่ต้องระมัดระวังการกล่าวอ้างชื่อบุคคล เพราะมีสิทธิฟ้องตามกฎหมายต้องระมัดระวังด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ว่า ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะมีหลายกระแส บางคนต้องการให้มีการจัด บางคนไม่ต้องการ  จะต้องดูความต้องการของประชาชน โดยรัฐบาลมีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ว่ามีความเหมาะสมและไม่เหมาะสมอย่างไร 

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อใส่ที่ตัวประชาชนโดยตรง ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทีมแพทย์ระบุว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง  เจ้าหน้าที่ควรจะพ่นโดยรอบพื้นที่ และหากประชาชนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ก็ไม่ควรที่จะเดินเข้าไปในบริเวณนั้น ต้องดูอะไรที่เหมาะสม  ต้องรู้ว่าอะไรที่ควรทำและไม่ควรทำ ขออย่าให้เกิดผลกระทบขึ้น และว่า ขออย่าไปขยายความในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

นายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงดารา ไฮโซ เชเลป ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ว่า แม้จะผ่านการคัดกรอง แต่ต้องกักตัวเอง 14 วัน ไม่ใช่ไปแพร่เชื้อ แล้วมีปัญหา  และว่า “ผมขอร้อง ไม่ได้ตำหนิ แต่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน”    นอกจากนี้  ต้องคุมเข้มสถานบันเทิง สถานที่จัดงาน ต้องมีมาตราการคัดกรอง เพื่อให้มั่นใจในการเข้าไปใช้บริการ  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย