คมนาคมเตรียมพร้อมแผนอำนวยการเดินทางช่วงสงกรานต์ 63

กรุงเทพฯ 11 มี.ค. – กระทรวงคมนาคมวางแผนพร้อมรับประชาชนเดินทางสงกรานต์ 63 แล้ว พร้อมสั่ง ทล.-ทช.นำร่องทดสอบใช้แผ่นยางหุ้มแบริเออร์ช่วงสงกรานต์นี้ 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2563 ว่า กระทรวงคมนาคมได้นำบทเรียนการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 มาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พร้อมกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา รวมถึงแผนการอำนวยความสะดวกในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยได้มอบนโยบายให้ปรับช่วงดำเนินการเข้มข้น (Kick Off) จากเดิมช่วง 7 วันอันตราย หรือระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2563 เป็นวันที่ 9-19 เมษายน 2563 เพื่อให้สามารถรองรับการเดินทางได้อย่างครอบคลุม อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมเตรียมสรุปกรอบการดำเนินการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบวันที่ 24 มีนาคม 2563 จากนั้นจะมีการประชุมหน่วยงานสังกัดที่เกี่ยวข้องอีกครั้งวันที่ 31 มีนาคม 2563 เพื่อปรับปรุงรายละเอียดก่อนที่จะแปรแผนการดำเนินการดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณายกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางทางพิเศษ (ทางด่วน) บูรพาวิถีและกาญจนาภิเษกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 00.01 น. ถึง 17 เมษายน 2563 เวลา 24.00 น. โดยคาดการณ์ว่าจะมีรถที่ได้รับการยกเว้นค่าผ่านทาง 3.24 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 115.8 ล้านบาท รวมยกเว้นค่าผ่านทางทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สาย 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา และสาย 9 บางปะอิน-บางพลี, พระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน ของกรมทางหลวง (ทล.) คาดการณ์ว่าจะมีรถที่ได้รับการยกเว้นค่าผ่านทาง 6.3 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่า 168.3 ล้านบาท                                                                                                                    


ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะเพิ่มความเข้มข้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนและทางลักผ่าน รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบเส้นทางรถไฟ นอกจากนี้ จะต้องประสานกับพื้นที่ เพื่อจัดหาบุคลากรเพิ่มเติม ในกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น วันที่ 20 มีนาคม 2563 กระทรวงคมนาคมเตรียมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) กับกองทัพอากาศ (ทอ.) ในการใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ ประกอบการตัดสินใจในการเดินทางให้กับประชาชน 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ได้มอบหมายให้ ทล.และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ไปพิจารณาใช้แผ่นยางหุ้มแบริเออร์ (Rubber Fender Barrier) หลังผ่านการทดสอบจากสถาบันที่ประเทศเกาหลีใต้แล้วเมื่อช่วงปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องกลับไปจัดทำแผนรายละเอียดต่าง ๆ อาทิ เส้นทางบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งว่า จะสามารถนำมาทดลองใช้ได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้หรือไม่ ก่อนกลับมาเสนออีกครั้งวันที่ 31 มีนาคมนี้ เพื่อเก็บข้อมูลทางสถิติต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้กระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนรองรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระบบขนส่งสาธารณะด้วย

ขณะเดียวกันเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2563 นั้น กระทรวงคมนาคมได้ประมาณการณ์การให้บริการด้วยรถสาธารณะช่วงการเดินทางรวม 303,000 เที่ยว รองรับผู้โดยสาร 13.43 ล้านคน โดยจะมีการเดินทางในกรุงเทพฯ เที่ยวปกติรวมทั้งหมด 130,656 เที่ยว และเที่ยวเสริม 23,542 เที่ยว รวมบริการ 154,198 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 7,817,793 คน แบ่งเป็น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถโดยสาร (รถเมล์) สาธารณะของเที่ยวปกติ 123,970 เที่ยว เที่ยวเสริม 23,514 เที่ยว รวมบริการ 147,484 เที่ยว จำนวนผู้โดยสารรวม 5,128,002 คน 


ขณะที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้จัดรถไฟฟ้าเที่ยวปกติ 3,942 เที่ยว ไม่มีเที่ยวเสริม รวมบริการ 3,942 เที่ยว ผู้โดยสาร 2,155,557 คน ส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (รฟฟท.) ได้จัดรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เที่ยวปกติ 1,288 เที่ยว เสริม 28 เที่ยว รวมบริการ 1,316 เที่ยว ผู้โดยสาร 353,234 คน ด้านกรมเจ้าท่า (จท.) ส่วนกลาง ได้จัดเรือโดยสารให้บริการ เที่ยวปกติ 1,456 เที่ยว ไม่มีเที่ยวเสริม รวม 1,456 เที่ยว ผู้โดยสาร 181,000 คน

ทั้งนี้ การเดินทางระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศ รวมเที่ยวปกติ 126,427 เที่ยว เที่ยวเสริม 22,675 เที่ยว รวมบริการ 149,102 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 5,618,993 คน แบ่งเป็น บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) ได้จัดรถทัวร์ไว้บริการเที่ยวปกติ 73,334 เที่ยว เที่ยวเสริม 22,584 เที่ยว รวมบริการ 95,918 เที่ยว ผู้โดยสารรวม 1,589,393 คน  นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดรถไฟให้บริการเที่ยวปกติ 1,708 เที่ยว เที่ยวเสริม 12 เที่ยว รวมบริการ 1,720 เที่ยว ผู้โดยสาร 818,360 คน

ในส่วนกรมท่าอากาศยาน (ทย.) คาดว่าจะมีเที่ยวบินที่ใช้บริการภายในท่าอากาศยาน 28 แห่งอยู่ในความดูแล คือ เที่ยวปกติ 1,653 เที่ยว ไม่มีเสริม รวมบริการ 1,653 เที่ยว ผู้โดยสาร 196,315 คน ขณะที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. คาดว่าจะมีเที่ยวบินที่ใช้บริการภายใน 6 ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแล คือเที่ยวปกติ 12,954 เที่ยว เสริม 79 เที่ยว รวมบริการ 13,033 เที่ยว ผู้โดยสาร 1,896,637 คน และกรมเจ้าท่าส่วนภูมิภาคจัดเรือโดยสารเที่ยวปกติ 36,778 เที่ยว ไม่มีเสริม รวมบริการ 36,778 เที่ยว ผู้โดยสาร 1,118,288 คน อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าภาพรวมการเดินทางในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 2.2% และระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศ ลดลง 9.9% จากปี 2562

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า จากสถิติสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 พบว่า 3 อันดับแรก เกิดจาก 1.ขับรถเร็วเกินกำหนด 886 ครั้ง หรือ 57.12% 2.คนหรือคนตัดหน้ากระชันชิด 207 ครั้ง หรือ 13.35% และ 3.เมาสุรา194 ครั้ง หรือ 12.51% ส่วนบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ 1.ทางตรง 978 ครั้ง หรือ 63.06% 2.ทางโค้ง 132 ครั้ง 8.51% 3.ทางแยก 126 ครั้ง หรือ 8.12% สำหรับอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2562 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 1,551 ครั้ง ลดลง 109 ครั้ง บาดเจ็บ 1,823 คน ลดลง 16 คน เสียชีวิต 258 คน ลดลง 1 คน ส่วนยานพาหนะ ที่เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ 1.รถจักรยานยนต์ 39.09% 2. รถปิคอัพ 4 ล้อ 26.22% 3.รถนั่งส่วนบุคคล และรถสาธารณะ 24.29%.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]