นครพนม 11 มี.ค. – กรณีพ่อแม่เด็กวัย 6 เดือน โพสต์เฟซบุ๊กเหมือนคาใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย หลังพาไปหาหมอด้วยอาการท้องเสีย แต่ลูกกลับช็อกตายคาเตียงของโรงพยาบาล ล่าสุดแพทย์ออกมายืนยันว่าทำเต็มที่แล้ว พร้อมเผยภาพจากกล้องวงจรปิด
กรณีเฟซบุ๊กชื่อ “Kinnaphat Prompakdee” โพสต์ข้อความว่า #RIP นะไอ้ตัวเล็ก ไปสู่สุคตินะ 6 เดือน อีก 5 วัน ครบ 7 เดือน เห้อ…ทำไมมีแต่เรื่องเศร้าๆ หมออะไร คนไม่ได้เป็นไข้ฉีดยาซะตัวพรุน เด็ก 6 เดือน ท้องเสียนะเว้ย ไม่ได้เป็นไข้โควิด-19 จับมัดขาสองข้าง เพื่อหาเส้น ฉีดยาให้ไม่รู้กี่อย่าง 😭 #RIP #โรงพยาบาลนครพนม #เสียใจทำอะไรไม่ได้ #เด็กตายตายังไม่หลับเลย
หลังข้อความถูกโพสต์ มีคนเข้ามาแสดงความเสียใจ คอมเมนต์มากกว่า 30,000 คน และแชร์ไปมากกว่า 20,000 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับพ่อแม่เด็ก ซึ่งที่บ้านจัดงานศพให้ “น้องออโต้” เด็กชายวัชรพล ทุ่มอุทัย วัย 6 เดือน นายนพพล ทุ่มอุทัย อายุ 38 ปี และนางสุนิน เดชพระไชย อายุ 49 ปี พ่อแม่น้องออโต้ เล่าด้วยน้ำตานองหน้าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เย็นวันที่ 8 มีนาคม พ่อเด็กได้นำสาลี่มาปอกกิน น้องออโต้เห็นก็คลานมาขอกินด้วย พ่อจึงส่งสาลี่ให้ดูดไปตามประสาเด็ก แต่พอตกกลางคืน ลูกร้องไห้โยเย และท้องเสีย ตอนเช้าจึงพามาหาหมอที่คลินิกรักษาเด็ก ในเขตเทศบาลเมืองฯ หมอวินิจฉัยว่าท้องเสีย จึงจัดยาและนมมาให้กิน แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงพาลูกไปหาหมอที่ รพ.นครพนม โดยเจ้าหน้าที่บอกให้ไปทำบัตรผู้ป่วยก่อน พ่อกับแม่ก็ขอว่า ลูกไม่ไหวแล้ว ขอตรวจก่อนได้ไหม แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันต้องทำตามขั้นตอน
ขณะกำลังเจรจา ประตูห้องฉุกเฉินเปิด พ่อกับแม่รีบพาลูกเข้าไปหาหมอ หมอกับพยาบาลก็ให้การช่วยเหลือ โดยจับขาของลูกยึดไว้ อ้างจะให้น้ำเกลือ ก่อนปิดม่านไม่ให้พ่อแม่เข้า ไม่นานหมอก็เปิดม่านออก แล้วบอกว่า ลูกเสียชีวิตแล้ว ซึ่งพ่อแม่แทบใจสลาย ไม่น่าเชื่อว่าลูกที่ท้องเสีย มีไข้เล็กน้อย มาถึงมือหมอไม่ถึงชั่วโมงกลับเสียชีวิต
ล่าสุด นพ.ยุทธชัย ตริสกุล ผอ.รพ.นครพนม ได้เชิญพ่อแม่ของน้องออโต้ เข้าฟังคำชี้แจงจากแพทย์ผู้ทำการรักษาน้องออโต้ คือ พญ.ชรินพร พนาอรุณวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม และ พญ.งามจิตร นิลวัชรารัง กุมารแพทย์ โดยแพทย์ทั้ง 2 คน ชี้แจงว่า ผู้ปกครองนำน้องออโต้มาพบในวันหยุดราชการ ซึ่งตามปกติจะต้องรอเวลาทำการภาคเย็น เวลา 17.00 น. แต่ด้วยน้องออโต้มีอาการหนัก จึงได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน พร้อมเปิดวิดีโอในห้องฉุกเฉินให้พ่อแม่เด็กและญาติดู แต่ห้ามบันทึกภาพ ทำให้พ่อแม่เห็นว่า แพทย์ได้พยายามช่วยน้องอย่างเต็มที่
ขณะที่ พญ.ชรินพร พนาอรุณวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม ยืนยันว่า ในห้องฉุกเฉินไม่มีใครตั้งใจมารุมทำร้ายน้อง แต่ภาพที่เห็นทุกคนพยายามช่วยเต็มที่ พร้อมเล่าถึงอาการของน้องออโต้ และเหตุการณ์ในขณะนั้นซ้ำอีกครั้ง
หลังฟังคำชี้แจงของแพทย์ และได้ดูวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉิน พ่อแม่น้องออโต้ก็ไม่ติดใจสาเหตุที่ลูกเสียชีวิต โดยยอมรับว่า พอใจกับการชี้แจง และเห็นแล้วว่า แพทย์ได้พยายามช่วยน้องออโต้อย่างเต็มที่ ซึ่งแพทย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า บางครั้งอาการช็อกของผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องตัวร้อนเสมอไป เช่น คนเป็นไข้เลือดออก การวินิจฉัยอาจเกิดจากโลหิตเป็นพิษ ซึ่งตามภาพน้องมีตัวเขียวคล้ำก่อนถึงมือแพทย์ ด้วยจรรยาบรรณแพทย์ต้องช่วยเหลือคนไข้ให้มีชีวิตรอด ไม่ต้องการให้ใครสูญเสีย
ทั้งนี้ ผอ.รพ.นครพนม จะนำคณะแพทย์พยาบาลไปร่วมงานศพของน้องออโต้ พร้อมย้ำว่า อยากแสดงความเสียใจที่ไม่สามารถยื้อชีวิตน้องกลับมาได้ นอกจากนี้ยังฝากถึงเคสอื่นด้วยว่า หากพบผู้ป่วยมีไข้สูงเกิน 2-3 วัน และอาการแย่ลง เช่น ซึม กระสับกระส่าย กินไม่ได้ ชักเกร็ง ปัสสาวะออกน้อย ควรรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือหากอาการหนัก สามารถโทรไปที่หมายเลข 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที. – สำนักข่าวไทย