ตลท.ยันมีมาตรการรับมือหุ้นร่วง

ตลท. 9 มี.ค. –  ตลท.รับหุ้นร่วงแรงหลังราคาน้ำมันโลกดิ่ง ยันไม่ต้องใช้เซอร์กิตเบรคเกอร์ ชี้มีมาตรการพร้อมรองรับสถานการณ์ เดินหน้าเตรียมออกมาตรการช่วยเอสเอ็มอีรับมือโควิด-19


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (8 มี.ค.) ปรับตัวลงมามากกว่า 6% เพราะหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงแรงมากกว่า 15% จากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงจากระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 30 เหรียญ/บาร์เรล ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ กลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงานยังปรับตัวลดลง 2-3% ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศที่เปิดให้ซื้อขายในช่วงเช้าวันนี้ทั้งตลาดเอเชียและออสเตรเลียปรับตัวลดลง 5-6% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปจะเปิดทำการในช่วง 15.00 น.

ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันถึง 30% ของมาร์เก็ตแคปรวมของตลาดหลักทรัพย์ และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มธนาคาร มีสัดส่วนมาร์เก็ตแคป 15% ของมาร์เก็ตแคปรวมของตลาดหลักทรัพย์


ขณะที่มองว่าการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างมากวันเดียวนั้น  ยืนยันว่าหุ้นร่วงลงมาแรงก่อนหน้านี้ และวันนี้ไม่เกี่ยวกับปัจจัยเครื่องมือการซื้อขาย ทั้งบล็อกเทรด โปรแกรมเทรดดิ้ง และชอร์ตเซล และเชื่อว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว หรือเซอร์กิตเบรคเกอร์ ตลอดจนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการพิเศษเพื่อกำกับการดูแลซื้อขายเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานผลกระทบต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับทราบ โดยทางกระทรวงการคลังจะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการระยะสั้น เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ส่วนมาตรการระยะยาวจะเป็นการปรับโครงสร้างด้านตลาดทุน โดยจะออกมาตรการให้ความช่วยเหลือบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) , บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เพื่อหาแนวทางดึงเงินลงทุน รวมถึงเพิ่มช่องทาง และเปิดโอกาสให้สามารถนำเงินไปลงทุนเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้มากขึ้น ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุป และออกมาตรการเร็ว ๆ นี้ พร้อมแนะนำนักลงทุนขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และอ่านบทวิเคราะห์ถึงผลกระทบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทุกวันนี้มีข่าวทั้งด้านลบและด้านบวก กระทบอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมาก และได้รับผลกระทบน้อย ซึ่งเป็นโอกาสในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือ การขยายลงทุนไปทั่วโลก 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงแรงกว่า 90 จุด  มาจากภาวะการตื่นตระหนกจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหลัก  หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรล้มเหลวในข้อลกลงปรับลดกำลังการผลิต ซึ่งราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลง ทุก 5 เหรียญ ส่งผลต่อประมาณการกำไรของตลาดหลักทรัพย์ลดลง 10,000 ล้านบาท  หรือเท่ากับกำไรต่อหุ้นลดลง 0.93 บาทต่อหุ้น  โดยมองว่าความผันผวนยังมีต่อเนื่อง  แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นมาบริเวณ 1,300 จุด  อย่างไรก็ตามยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีการระบาดไปหลายประเทศทั่วโลก จะเป็นตัวบั่นทอนภาวะเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และคาดว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อไปจนถึงครึ่งปี2563 


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ให้นักลงทุนกระจายการลงทุน โดย 45 % ถือเป็นเงินสด หรือลงทุนในตราสารหนี้ อีก 35 % ลงทุนในหุ้นไทย ใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเงินปันผลสูง เช่น INTUCH , DIF, LH  กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น CPALL ,JMART กลุ่มธุรกิจผูกขาด เช่น AOT ส่วนอีก 10 % ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ  และอีก 10 % ลงทุนในอนุพันธ์กึ่งทุน กึ่งหนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร