กรุงเทพฯ 9 มี.ค.- มูลนิธิรณสิทธิ์ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กเเละสตรี ร้องเรียน 4 ข้อให้ กต.ตรวจสอบคำพิพากษาและคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในคดีค้ามนุษย์อาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท จนผู้ต้องหา”นิภา-ธนพล” นำไปใช้เป็นเหตุผลยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีต่ออัยการ
นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กเเละสตรี ในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีค้ามนุษย์ อาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท พร้อมนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ กต. เพื่อให้ตรวจสอบรายละเอียดคำพิพากษาและคำวินิจฉัยของศาล ในคดีค้ามนุษย์ อาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ จนทำให้ผู้ต้องหาสำคัญในอีกคดีที่เกี่ยวข้องกัน คือ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ เสี่ยกำพล เจ้าของอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท นางนิภา และนายธนพล ภรรยาและลูกชายของนายกำพล นำไปใช้เป็นเหตุผลยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีต่ออัยการ
นายรณสิทธิ์ ได้ยื่นข้อร้องเรียนทั้งหมด 4 ข้อ ให้ กต.พิจารณา ข้อแรก มองว่าคำพิพากษาดังกล่าวเกินคำฟ้อง มีการพาดพิงไปถึงผู้ต้องหาในอีกคดี ที่ยังไม่ได้นำตัวมาเป็นจำเลยว่าไม่มีความผิด ควรให้โอกาสอัยการในการนำตัวผู้ต้องหาขึ้นไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อน ข้อ 2 กรณียกฟ้องจำเลยทั้งหมดฐานค้ามนุษย์ เพราะมีการต่อสู้คดี ว่าไม่ทราบอายุของผู้เสียหายที่มาขายบริการ ซึ่งกังวลว่าจะมีการนำไปใช้เป็นแนวทางต่อสู้คดีค้ามนุษย์ในอนาคต ข้อ 3 กรณีมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยฐานค้าประเวณี ว่าเป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับนายกำพล ที่เชื่อว่าเป็นเจ้าของสถานบริการตัวจริง และข้อ 4 กรณีวินิจฉัยว่าอาบอบนวดวิคตอเรียฯ เป็นสถานบริการที่เปิดถูกต้องตากฎหมาย ไม่มีการค้าประเวณี หรือ ค้ามนุษย์ และมีผู้ใช้บริการจำนวนมากก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจ ซึ่งมองว่าสถานบริการส่วนใหญ่มีการแฝงขายบริการทางเพศให้กับนักท่องเที่ยว จึงกังวลว่าคำวินิจฉัยจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของไทย โดยเฉพาะการจัดอันดับสถานการณ์ค้ามนุษย์ได้
นายรณสิทธิ์ ยืนยันอีกว่า การยื่นข้อเรียกร้องต่อ กต. นี้ เพราะต้องการให้ตรวจสอบในรายละเอียดเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โดยไม่ได้ปรักปรำว่าเสี่ยกำพล และครอบครัวกระทำผิด จึงอยากให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่นายชูวิทย์ ซึ่งวันนี้เดินทางมาให้กำลังใจนายรณสิทธิ์ ระบุว่า จากการที่เคยอยู่ในวงการและมีข้อมูล ก็อยากให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเท็จจริง เพื่อเป็นบรรทัดฐานในอนาคต.-สำนักข่าวไทย