สรท.มองโควิด-19 ยาวฉุดส่งออกอาจไม่โต

กรุงเทพฯ 3 มี.ค. – ประธาน สรท.มองปัญหาโควิด -19 อาจทำให้การส่งออกไทยปีนี้ไม่โต เสนอแนวทางภาครัฐช่วยด่วน


น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สรท.ได้มีการประเมินผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จะเห็นผลชัดเจนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ถือว่ากระทบและแพ่รกระจายไปทั่วโลก ดังนั้น คงต้องติดตามหากยืดเยื้อยาวนาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัญหาไวรัสโควิด-19 จะจบเร็วหรือไม่ ในส่วนของภาคการส่งออก การบริโภคภายในประเทศ การลงทุนของภาครัฐและเอกชนยังคงจำเป็นจะต้องเข้ามาชดเชยผลกระทบ ด้านการท่องเที่ยวคาดว่าปีนี้จะชะลอตัวลงอย่างมาก 

ทาง สรท.มองว่าหากปัญหาไวรัสโควิด-19 กลับมาเป็นปกติสามารถส่งออกไปตลาดจีนและอีกหลายประเทศได้น่าจะทำให้ภาคการส่งออกไทยฟื้นตัว แต่มองว่าการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 0-1.5 บนสมมติฐานค่าเงินบาท 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  แม้ว่าตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม 2563 กลับมาเป็นบวก ร้อยละ 3.3 แต่หากหักน้ำมันและทองคำส่งออกไทยยังคงติดลบร้อยละ  0.65 ดังนั้น คงจะต้องติดตามผลกระทบจากไวรัสโควิด -19 ที่จะเห็นผลกระทบต่อการส่งออกไปทั่วโลกเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป และมองว่าไตรมาสแรกคงติดลบร้อยละ 3.6 ไตรมาส 2 ติดลบร้อยละ 2.91 และครึ่งปีแรก 2563 ส่งออกจะติดลบร้อยละ 3.3 เป็นต้น


ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะต่อมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้านต้นทุนการเงิน สถาบันการเงินและกระทรวงการคลังเน้นการปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการในดําเนินธุรกิจ อาทิ การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำระยะ 6 เดือน และ การขยายระยะเวลาการชําระคืนสินเชื่อเพื่อการส่งออก ระยะเวลา 12 เดือน การหยุดพักชําระหนี้ธนาคารและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 12 เดือน การยกเว้นภาษีสรรพสามิตและภาษีหัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ 3 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่พึงพาตลาดจีนเป็นหลัก  การชะลอเรียกเก็บภาษีใหม่ที่เป็นอุปสรรคต่อการดําเนินธุรกิจในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว อาทิ ภาษีความหวาน ความเค็ม เป็นต้น

ด้านการตลาดและโลจิสติกส์  กระทรวงพาณิชย์ควรจัดให้มีทีม Social Media หรือ Call Center เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสอบถามและรายงานสถานการณ์ ปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถสอบถามข้อมูลสําหรับประกอบการวางแผนดําเนินธุรกิจและควรเป็นสื่อกลางแจ้งข้อมูลข่าวสารล่าสุด เพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศจีนรายมณฑล จุดขนส่งสินค้าต่าง ๆ ที่สามารถดําเนินการได้ เพิ่มความถี่การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (Thailand Exhibition)และควรประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาลจีนทั้งส่วนกลางและรายมณฑล ในเรื่อง ผ่อนปรนกฎระเบียบการนําเข้า และส่งออกสินค้า 3.2 ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อาทิ congestion surcharge และ storage charge และขอให้เร่งเจรจาเขตการค้าเสรี FTA อาทิ Thai-EU, RCEP, Thai – United Kingdom, Thai – Pakistan, Thai – Turkey, Thai – EFTA และ Thai – Sri Lanka เพื่อชดเชยการพึ่งพาตลาดจีนและกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดใหม่เพิ่มมูลค่าการส่งออก และเพื่อไม่ให้ไทยเสียตลาดหลักให้กับคู่แข่งที่ได้มีการทํา FTA ไปกับกลุ่มประเทศดังกล่าวก่อนหน้า และกํากับดูแลให้เรือขนส่งสินค้าจัดหาตู้คอนเทนเนอร์บรรจุสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ส่งออกในอัตราค่าระวางที่เหมาะสม 

ทั้งนี้ จัดหาบริการขนส่งสินค้าทางอากาศลักษณะเช่าเหมาลํา (Charter Flight – Freighter) เพื่อรองรับความต้องการขนส่งสินค้า Perishable ซึ่งไม่สามารถขนส่งสินค้าทางทะเล เนื่องจากยังมีปัญหาท่าเรือแออัด เตรียมความพร้อมท่าเรือของไทย สําหรับรองรับความต้องการขนส่งสินค้านําเข้าและส่งออกไปยังประเทศจีน เพื่อป้องกันปัญหาความ แออัดของสินค้า เมื่อประเทศจีนสามารถขนส่งสินค้าได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี