เอสเอ็มอีแบงก์เดินหน้า“พัก-ขยาย-เติม”ช่วยลูกค้ากระทบโควิด-19

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.-เอสเอ็มอีแบงก์เดินหน้าช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบจาก ไวรัสโควิด-19
ทั้งทางตรงและทางอ้อมส่งทีมงานลงพื้นที่แนะนำเข้าถึงมาตรการ พัก-ขยาย-เติมเปิดโอกาสพักชำระหนี้เงินต้นนานสูงสุด12เดือน
ขยายเวลาชำระหนี้พร้อมเติมทุนเสริมสภาพคล่อง ประคองธุรกิจผ่านภาวะฉุกเฉินไปได้


น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือเอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า
จากที่ธนาคารออกชุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดของ
ไวรัสโควิด-19
ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา  นอกเหนือจากที่ลูกค้าจะติดต่อสมัครเข้าร่วมมาตรการด้วยตัวเองแล้วธนาคารทำงานเชิงรุกโดยให้พนักงานสาขาทั่วประเทศ
เข้าเยี่ยมกิจการหรือโทร.สอบถามลูกค้า
เพื่อจะแนะนำลูกค้าที่กำลังได้ผลกระทบเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว
ช่วยให้ลูกค้ามีภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ
สามารถจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ รวมถึง
ป้องกันการตกชั้นของลูกค้า

ทั้งนี้ ชุดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ครอบคลุมทุกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ภัตตาคาร ธุรกิจนำเที่ยว
ร้านขายของฝากของที่ระลึก ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ฯลฯ
และธุรกิจที่เป็น
Supply Chain หรือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางตรงประกอบด้วย
1.มาตรการ
พักชำระหนี้เงินต้นสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรง
นานสูงสุด 12 เดือน และลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม นานสูงสุด6 เดือน
เพื่อช่วยลดภาระการชำระหนี้และมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
โดยเริ่มพักชำระนับจากเดือนถัดไปที่ได้รับการอนุมัติพักชำระหนี้เงินต้น 2. มาตรการ
ขยายเวลาชำระหนี้
ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ธุรกิจและสำหรับลูกค้าที่ใช้ บสย.ค้ำประกันเดิม
(โครงการค้ำประกันสินเชื่อ
Portfolio Guarantee Scheme (PGS)ระยะที่
5-7 ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)ทำหน้าที่เป็นหลักทรัพย์ช่วยค้ำประกันให้ผู้ประกอบการ
SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อได้คล่องตัวขึ้น)
สามารถขยายระยะเวลาค้ำประกันออกไปได้อีก 5 ปี โดยลูกค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆ
และ 3.มาตรการ
เติมทุนดอกเบี้ยถูกเสริมสภาพคล่องเพื่อให้ลูกค้ามีเงินทุนไปใช้หมุนเวียนในธุรกิจ
คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นิติบุคคล 3%ต่อปี ใน 3 ปีแรก วงเงิน 1 ล้านบาทต่อราย
และบุคคลธรรมดา 5%ต่อปี ใน 3 ปีแรก วงเงิน 5 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 7
ปี


“ชุดมาตรการดังกล่าว จะช่วยลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ
มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ประคองธุรกิจ รักษาสภาพการจ้างงานในกิจการ
และช่วยป้องกันการตกชั้นได้อีกทางหนึ่ง โดยลูกค้าที่ต้องการร่วมมาตรการ
สามารถติดต่อได้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน2563 ณ สาขาเอสเอ็มอีแบงก์ทั่วประเทศ
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Call Center 1357” น.ส.นารถนารี กล่าว – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง