กรุงเทพฯ 1 มี.ค. – คิงเพาเวอร์ชี้แจงผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 เป็นพนักงานบริษัทคู่ค้า พร้อมปิดสาขาศรีวารีชั่วคราว
ส่วนงานสื่อสารองค์กร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชี้แจงกรณีมีผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID-19 โดยระบุเป็นพนักงานขายสินค้าฯ นั้น บริษัทฯ ได้ตรวจสอบพบว่าเป็นพนักงานส่งเสริมการขายสินค้า (PC-Product Consultant) ของบริษัทคู่ค้าที่มีสินค้าจำหน่ายในสาขาศรีวารี มีอาการไข้ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2563 โดยรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งระบุว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ วันที่ 29 มกราคม 2563 อาการดีขึ้น จึงกลับมาทำงาน ภายหลังช่วงเย็นมีอาการป่วย จึงเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และแจ้งลางานกับต้นสังกัดด้วยโรคไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2563 หลังจากนั้นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ถูกส่งตัวไปสถาบันบำราศนราดูร แพทย์ตรวจพบไวรัส COVID-19
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ทางบริษัทฯ จึงปิดให้บริการสาขาศรีวารี เป็นต้นมา และให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและผู้ที่ทำงานที่สาขาศรีวารีเป็นที่เรียบร้อยในวันเดียวกัน จากนั้นดำเนินการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส (H1N1- COVID-19) มาโดยตลอด เหตุการณ์ดังกล่าวแม้ผู้เสียชีวิตจะไม่ได้เป็นพนักงานในสังกัดบริษัทฯ โดยตรง แต่เมื่อทราบข่าวบริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ
ทั้งนี้ ผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้มีผู้เข้าใช้บริการที่สาขาศรีวารีลดลงจำนวนมากนับแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา รวมถึงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่เรียนไว้ข้างต้นสาขาศรีวารีจึงได้ปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวนับแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 อย่างเข้มงวด บริษัทฯ ได้ดำเนินการ พ่น อบ น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส (H1N1- COVID-19) ที่สาขาศรีวารี ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2563 ซึ่งสาขาอื่น ๆ ได้มีการดำเนินการเช่นเดียวกัน โดยการพ่น อบ น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส (H1N1- COVID-19) โดยเฉพาะเป็นมาตรฐานที่บริษัทฯ ดำเนินการทุกสัปดาห์ นอกเหนือจากแนวทางดูแลด้านอื่น ๆ ตั้งแต่การดูแลพื้นที่และพนักงานตรวจวัดไข้รวมถึงให้ปฏิบัติตามประกาศของทางกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
บริษัทฯ มีความห่วงใยและยืนยันในความมุ่งมั่นดำเนินการป้องกัน ควบคุม เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า คู่ค้า พนักงาน อย่างสูงสุด เพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤติไวรัส COVID-19 นี้ไปด้วยกันอย่างดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย