สุราษฎร์ธานี 29 ก.พ.- ระทึก! หนุ่มวัย 33 ซิ่ง 10 ล้อแหกด่านข้ามอำเภอจนน้ำมันหมด เหตุน้อยใจแม่ขายสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อ เดือดร้อนตำรวจต้องใช้รถลากออกเพราะขวางการจราจร
เหตุเกิดขึ้นเวลาประมาณ 22.00 น.คืนที่ผ่านมา ตำรวจ 50 นาย นำโดยตำรวจ 3 สังกัดทั้ง สภ.ดอนสัก, สภ.กาญจนดิษฐ์ และสืบสวนภูธรจังหวัด ได้ทำการปิดล้อมรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 82 -2072 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่กลางถนนสายกาญจดิษฐ์-สุราษฎร์ธานี ขาเข้าตัวเมืองบริเวณตีนสะพานท่าทอง ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ โดยมีนายนัฐฐา หรือ “หมี” บุญแก้ว อายุ 33 ปี ชาวอำเภอดอนสักเป็นผู้ขับขี่ และไม่ยอมลงจากรถ แถมขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่จึงปิดเส้นทางป้องกันเหตุซ้ำซ้อน เพราะไม่แน่ใจว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนหรือไม่ แต่การเจรจาหว่านล้อม 3 ชั่วโมงไม่เป็นผล แม้ได้ประสานแม่ของผู้ก่อเหตุมาพูดคุยแต่ก็ไม่ได้ผลอีก จึงลากรถบรรทุกคันนี้ออกจากที่เกิดเหตุ โดยปล่อยให้นายนัฐฐา นั่งอยู่ในรถ เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร
พ.ต.อ.สุทธิ นิติอัครพงศ์ ผู้กำกับการ สภ.ดอนสัก กล่าวว่า ตำรวจได้รับแจ้งมีการขับรถสิบล้อถอยชนรถกระบะจนทะลุกำแพงบ้านที่บริเวณกลางตลาดเทศบาลตำบลดอนสัก จากนั้นรถคันนี้ได้ขับหลบหนีจาก อ.ดอนสัก มาตามเส้นทาง ดอนสัก – กาญจนดิษฐ์ ระยะทาง 60 กิโลเมตร และขับรถฝ่าไฟแดงที่สี่แยกท่าทอง ก่อนน้ำมันหมด แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมลงจากรถ จึงต้องปิดถนนเกลี่ยกล่อมนาน 3 ชั่วโมง
ส่วนสาเหตุมาจากที่นายนัฐฐา ไม่พอใจที่แม่ขายบ้านที่พ่อสร้างไว้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายในราคา 5 ล้านบาทโดยไม่บอกกล่าว ถึงถอยรถบรรทุกชนรถกระบะของแม่ และผู้ก่อเหตุต้องการให้แม่ซื้อบ้านคืน แต่ปรากฏว่าแม่ได้ซื้อบ้านหลังใหม่ไปแล้ว ตำรวจจึงลากรถออกจากพื้นผิวการจราจร ก่อนให้แม่ลูกได้เจรจากันต่อไป
อย่างไรก็ตาม การเจรจาของแม่ลูกไม่เป็นผลและลูกชายไม่ยอมลงจากรถ ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษต้องเฝ้าตลอดทั้งคืน เพราะไม่มั่นใจว่าจะก่อเหตุอะไรอีกหรือไม่ จนกระทั่งเวลา 07.00 น. ตำรวจได้เจรจาอีกรอบ จึงยอมลงจากรถแต่โดยดี และยกมือไหว้ขอโทษตำรวจที่ทำให้เดือดร้อน
เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาใน 2 พื้นที่ คือ สภ.ดอนสัก กับ สภ.กาญจนดิษฐ์ ฐานขับรถประมาทหวาดเสียว ซึ่งเป็นการขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และข้อหาฝ่าฝืนสัญญาณจราจร โดยทั้ง 2 ข้อหาปรับไม่เกินข้อหาละ 5,000 บาท.-สำนักข่าวไทย