กองบัญชาการกองทัพไทยเตือนกำลังพลช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

กรุงเทพ 28 ก.พ.-กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 เน้นย้ำกำลังพลให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด


พล.ต.ธีรพงศ์  ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า  จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID 19 ในขณะนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย มีความตระหนักต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการกำหนดแนวทางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID 19 ขึ้น เพื่อชี้แจงแนวทางและมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID 19 ให้กำลังพลสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย และครอบครัว ได้ตระหนักรู้ถึงการระบาดของโรค เพื่อการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งรู้ถึงวิธีการป้องกัน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID 19 

โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ได้กำหนดมาตรการ ดังนี้ มีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังพลและครอบครัว งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก หรือในสถานที่ปิด หากมีความจำเป็นต้องไป ควรหามาตรการป้องกันโดยการสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลฆ่าเชื้อ ก่อนและหลังเข้าไปในสถานที่ดังกล่าว และหมั่นทำความสะอาด หรือกำจัดเชื้อโรคบนวัสดุสิ่งของ หรือพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย เช่น ประตูลิฟท์ โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ ด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือน้ำยาฟอกขาว 5% โซเดียมไฮโปคลอไรท์(ไฮเตอร์) 1 ส่วนต่อน้ำ 99 ส่วน ทุก 1-6 ชั่วโมง โดยก่อนปล่อยทหารกองประจำการพักทุกครั้ง ให้ผู้บังคับบัญชาชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติตามแนวทางมาตรการป้องกัน รวมทั้งตรวจตรา และเฝ้าระวังโดยใกล้ชิดเมื่อกลับมาปฏิบัติงาน


พล.ต.ธีรพงศ์  กล่าวว่า สำหรับกรณีสงสัยว่าอาจติดเชื้อ ให้ดำเนินการคัดกรอง ที่ สำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร หรือสถานพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดและสำหรับหน่วยศึกษาในกองบัญชาการกองทัพไทย ที่มีกำหนดการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ ให้งดหรือเลื่อนการศึกษาดูงานต่างประเทศออกไปก่อน โดยให้เดินทางไปในช่วงท้ายหลักสูตร หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯ คลี่คลายลง 

“ในส่วนราชการที่มีกำหนดการฝึก ประชุม สัมมนา ดูงาน สังเกตการณ์ภายในประเทศและต่างประเทศ ให้งดหรือเลื่อนการปฏิบัติออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฯ คลี่คลายลง ทั้งนี้ หากเป็นการดำเนินการในพื้นที่ของหน่วยทหารให้ขออนุญาตเป็นกรณีไป ขณะเดียวกันไม่อนุญาตหรืออนุมัติให้กำลังพลลาพักผ่อนไปต่างประเทศในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคฯกรณีกำลังพลที่ได้รับอนุมัติให้ลาแล้ว ยังไม่ได้เดินทาง ให้ยกเลิกการเดินทาง”โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าว

โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กำลังพลได้เดินทางไปประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หลังจากกลับมาในประเทศแล้วให้ดำเนินการ ดังนี้ คือต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองที่ สำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร และกำหนดให้พักอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วน หากสำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร พบว่ามีแนวโน้มที่จะติดเชื้อโรคให้ปฏิบัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ ส่วนการรับการมาเยือนของแขกต่างประเทศ ข้าราชการ หรือบุคลากร ที่มาจากประเทศหรือเขตปกครองพิเศษที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีที่ต้องมาติดต่อกับกองบัญชาการกองทัพไทย ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมา หรือหากมีความจำเป็นต้องเดินทางมาให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด


พล.ต.ธีรพงศ์  กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นของกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้กวดขัน และชี้แจงทำความเข้าใจกำลังพลในสังกัดและครอบครัว ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) อันจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานและสร้างความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมต่อไป.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล