เลย 27 ก.พ.- หลังเกิดไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย มาตลอด 11 วัน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ดับไฟได้แล้ว ตั้งแต่ 22.00 น.วานนี้ แต่ยังต้องเร่งจัดทำแนวป้องกันไฟป่าปะทุซ้ำ ตั้งเป้าเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมเฝ้าระวัง 3 หมู่บ้านใน ต.ศรีฐาน ป้องกันการลักลอบเผา
เฮลิคอปเตอร์ Mi 17V5 จากศูนย์การบินทหารบก ทยอยยกรถแทรกเตอร์ รถกระบะ อย่างละ 2 คัน พร้อมน้ำมัน 5,000 ลิตร และอุปกรณ์ต่างๆ สนับสนุนภารกิจดับไฟป่าบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟได้ในช่วง 22.00 น.วานนี้ หลังไหม้ลุกลามครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 3,400 ไร่ ระหว่างวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนปะทุซ้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกแรงสกัดตลอด 11 วัน
ภารกิจหลักของแทรกเตอร์ที่รวมกับของเดิมเป็น 3 คัน คือ การเร่งทำแนวป้องกันไฟใหม่ 10 กิโลเมตร ตามทางเดินนักท่องเที่ยว หรือจุดที่รถเข้าไปได้ ขณะนี้ทำได้แล้วราว 1 กิโลเมตร อีก 8 กิโลเมตรที่เหลือ จะทำให้เสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ ยังต้องปรับปรุงแนวกันไฟเดิมที่ทำไว้ 70 กิโลเมตร และเฝ้าระวังในจุดเสี่ยงที่เหลืออีกกว่า 20,000 ไร่ บนหลังแปยอดภูกระดึง โดยพร้อมทำแนวกันไฟชั่วคราว หากมีไฟป่าปะทุขึ้นมา และเผากลับเพื่อควบคุมไฟ
ทุกฝ่ายยืนยันตรงกันว่า ภารกิจสนับสนุนการควบคุมไฟป่าภูกระดึงตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ไม่มีการเรียกเก็บเงิน 3.5 ล้านบาท
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เผชิญกับปัญหาไฟป่าครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี สูญเสียต้นสนที่เป็นมนต์เสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้เป็นจำนวนมาก พื้นที่เสี่ยง ต้นเหตุไฟป่าจากการเผาเพื่อกรุยทางหาของป่า คือ บ้านอีเลิศ นาแปน และวังยาง ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง ซึ่งฝ่ายปกครองจังหวัดเลยเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และพร้อมดำเนินคดี หากเป็นต้นเหตุให้ไฟป่าปะทุขึ้นมาอีกระลอก.-สำนักข่าวไทย