ตามหาวุ่นทั้งเมืองตรัง ชายชาวจีนต้องสงสัยป่วยโควิด-19

ตรัง 27 ก.พ. – ตามหาวุ่นทั้งเมือง ชายชาวจีนต้องสงสัยป่วยโควิด-19 มีไข้สูง 37 องศา ไปหาหมอ รพ.เอกชน แต่รอนาน และนัดเพื่อนไว้จึงออกไปกินข้าวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง หลังพบตัว นำส่งตรวจที่ รพ.ศูนย์ตรัง อยู่ระหว่างรอผล เบื้องต้นพบไม่เคยไปพื้นที่เสี่ยง


ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ตรัง ต้องเดินทางไปรับผู้ต้องสงสัยชายชาวจีนป่วยติดเชื้อโควิท 19 ด้วยตัวเอง ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง หลังจากชายคนดังกล่าวไปตรวจที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งด้วยอาการไข้สูง 37 องศา แต่นั่งรอนานนับชั่วโมง จึงออกมาจากโรงพยาบาลไปเที่ยวสถานบันเทิงตามนัด ทำตำรวจและหมอวิ่งวุ่น ต้องเอาตัวไปตรวจที่ รพ.ศูนย์ตรัง เบื้องต้นทางโรงพยาบาลแจ้งต้องรอผล แต่เบื้องต้นพบข้อมูล ไม่เคยไปในพื้นที่เสี่ยง


กลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองตรัง พร้อมตำรวจท่องเที่ยวตรัง ได้รับการประสานจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และโรงพยาบาลตรัง ให้นำกำลังตำรวจมาติดตามชายชาวจีน 2 คน คนหนึ่งมีอาการไข้ ช่วงค่ำเข้าไปตรวจรักษา โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลได้วัดอุณหภูมิคนไข้รายนี้พบว่ามีไข้สูง 37 องศา จึงแจ้งให้แพทย์ทราบ โดยให้คนไข้ไปนั่งในห้องเล็กๆ แต่อาจจะรอนาน ชายชาวจีนรอไม่ได้  จึงชวนเพื่อนออกจากโรงพยาบาล พยาบาลตกใจได้แจ้งกับหมอก่อนที่จะประสานกับโรงพยาบาลตรัง และตำรวจออกติดตามชายชาวจีนคนดังกล่าว จึงทำให้เกิดความโกลาหลทั้งเมืองตรัง เพราะทั้งตำรวจ แพทย์ พยาบาล ต้องใช้ภาพถ่ายออกติดตามสืบหาชายชาวจีนรายนี้ไปตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งพบว่าชายชาวจีนคนนี้ไปนั่งรับประทานอาหารในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใจกลางเมืองตรัง ตำรวจจึงต้องกักตัวชายชาวจีนไว้เพื่อให้แพทย์มารับตัว 


ในเวลาต่อมา พ.ญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง พร้อมทีมแพทย์ได้เดินทางมารับคนไข้พร้อมเพื่อนขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉินไปยังโรงพยาบาลศูนย์ตรังทันที จากการซักประวัติชายชาวจีนคนนี้พบว่า เป็นนักธุรกิจพักอาศัยและทำงานอยู่ใน จ.ตรัง นานแล้ว ระยะนี้ไม่ได้เดินทางมาจากประเทศจีนหรือประเทศเสี่ยง แต่ก่อนที่จะมีไข้สูง ได้ออกไปเที่ยวทะเล สภาพอากาศร้อนจัด จึงทำให้มีอาการตัวร้อนไข้ขึ้นสูง ไปหาหมอที่โรงพยาบาบเอกชนแห่งนี้ แต่ถูกทิ้งให้รอนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงออกมาสถานบันเทิง เพราะนัดเพื่อนไว้ 

พ.ญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ตรัง บอกเพียงสั้นๆ ว่า ต้องนำคนไข้ไปตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะสงสัยว่าได้รับเชื้อหรือจะเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยโควิด-19 หรือไม่ ต้องรอผลตรวจก่อน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว