กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – กรมการขนส่งทางรางถก กสทช. เร่งติดอุปกรณ์กรองคลื่น ป้องกันสัญญาณ 5G กระทบรถไฟฟ้า
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยหลังการประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากแผนความถี่วิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่านความถี่ 2500 – 2690 เมกะเฮิรตซ์ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ร่วมกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ BEM
นายสรพงศ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกัน 4 ข้อ คือ 1.ที่ประชุมมีเจตจำนงร่วมกันในการดำเนินการ เพื่อลดผลกระทบต่อปัญหาคลื่นความถี่รบกวนที่จะมีผลต่อการให้บริการระบบรถไฟฟ้าต่อประชาชน 2. ขร.และ กสทช. พร้อมร่วมมือกัน โดย กสทช. จะขอความร่วมมือจากภาคเอกชนที่ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ให้ความร่วมมือในการลดผลกระทบต่อระบบการเดินรถไฟฟ้า 3. กรมการขนส่งทางรางจะประสานกับ BTSC ในการเร่งดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์กรองคลื่น (Filter) โดยอุปกรณ์ชุดแรกจะมาภายในเดือนมีนาคม เพื่อทดสอบการกรองคลื่นและจะติดตั้งแล้วเสร็จครบทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม โดยจะประสานกับ กสทช. ในการออกแบบ Filter ให้มีความคมชัด และมีประสิทธิภาพสูงที่สุด และ 4. ขอความร่วมมือ กสทช. เป็นหน่วยงานกลางในการประสานผู้ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ เพื่อร่วมทดสอบกับระบบรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม สายสีม่วงร่วมกับ รฟม. และ BEM เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการเดินรถในอนาคต
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กสทช.ได้มีการประมูลคลื่นวิทยุกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่านความถี่ 2500 – 2690 เมกะเฮิรตซ์ (5G) ซึ่งมีย่านความถี่ใกล้เคียงที่ใช้ในระบบการเดินรถไฟฟ้าในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ สายสีเขียวและสายสีม่วง (ย่านความถี่ 2405-2495 เมกะเฮิรตซ์) ที่มีการใช้งานมานานกว่า 10 ปี โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน 07.00 – 09.30 น.และ 16.30 – 20.00 น. ซึ่งมีความถี่ในการเดินรถทุก 2.5 – 3 นาที คลื่นความถี่ 5G ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบการเดินรถไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย