เผย 4 เดือนแรกปี 63 ใช้จ่ายแล้ว 9.59 แสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – กรมบัญชีกลางเผย 4 เดือนแรกปี 63 ใช้จ่ายแล้ว 9.59 แสนล้านบาท พร้อมเร่งส่วนราชการจัดซื้อจัดจ้างให้พร้อมลงนามทันที เมื่องบประมาณปี 63 มีผลบังคับใช้


นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 (1 ต.ค. 62 – 31 ม.ค.63) ซึ่งเป็นการใช้จ่ายงบประมาณปี 2562 ไปพลางก่อน โดยงบประมาณภาพรวมใช้จ่ายแล้ว 959,941 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 3 ล้าน ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 32 จำแนกเป็น รายจ่ายลงทุนมีการใช้จ่าย 60,001 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 593,871 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.10 รายจ่ายประจำมีการใช้จ่าย 899,940 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2,406,129 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.40 สำหรับเงินงบประมาณที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี มีการใช้จ่าย 257,039 ล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 263,268 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 97.63

สำหรับโครงการที่ต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างปี 2563 มีจำนวน 646,161 โครงการ จำนวน 237,589.8 ล้านบาท จำแนกเป็น โครงการที่จัดทำสัญญาแล้ว  561,747 โครงการ วงเงินงบประมาณ 76,602.10 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญา 50,767 โครงการ วงเงินงบประมาณ 26,258.43 ล้านบาท โครงการที่อยู่ระหว่างจัดหาคู่สัญญา 33,647 โครงการ วงเงินงบประมาณ 134,729.27 ล้านบาท กรมบัญชีกลางได้เร่งรัดหน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้พร้อมรองรับพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศใช้ โดยได้มอบนโยบายให้คลังเขต/คลังจังหวัดเร่งประสานงานทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงานของรัฐให้เตรียมความพร้อมเร่งดำเนินการจัดทำสัญญาโครงการจัดซื้อจัดจ้างให้สามารถลงนามได้ทันที เมื่องบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีผลบังคับใช้


ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไปก่อนได้ แต่จะลงนามในสัญญาต่อเมื่องบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีผลบังคับใช้ และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้โดยเร็ว มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยทำให้มีเม็ดเงินกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจส่งผลดีในการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง