fbpx

กรุงศรีหั่นจีดีพีปี 63 เหลือ 1.5%

กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – กรุงศรีหั่นจีดีพีปี 63 ลงเหลือ 1.5% หลังได้รับผลกระทบหนักจากความล่าช้างบฯ ปี 63 การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และภัยแล้งทวีความรุนแรงขึ้น 


นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารปรับลดจีดีพีปี 2563 ลงเหลือ 1.5% จากเดิมคาดจะขยายตัว 2.5% เนื่องจากเศษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะครึ่งปีแรกจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 โดยคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคม หรืออย่างเร็วสุดกลางเดือนมีนาคม ทำให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงการใหม่และที่กำลังดำเนินการล่าช้า กระทบจีดีพีลด 0.9% นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเอกชนด้วย 

ส่วนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คาดจะมีความรุนแรงสุดช่วงเดือนมีนาคมและใช้เวลาอย่างน้อยถึงเดือนพฤษภาคมสถานการณ์จึงเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2563 หดตัว 4-5% กระทบจีดีพีลดลง 0.4% ขณะที่ปัญหาภัยแล้งมีความรุนแรงมากขึ้นและมีแนวโน้มลากยาวถึงเดือนพฤษภาคม โดยวิจัยกรุงศรีประเมินว่าข้าวจะได้รับความเสียหายกว่า 21,600 ล้านบาท มันสำปะหลังเสียหายกว่า 2,500 ล้านบาท รวมทั้งผลกระทบทางอ้อมต่อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆ ทำให้กระทบต่อจีดีพีลดลง 0.3% 


อย่างไรก็ตาม นายสมประวิณ ระบุว่า จากผลกระทบดังกล่าวจะทำให้จีดีพีไตรมาส 1 ติดลบ 1.5% และจะกลับมาเป็นบวกได้ในไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขจีดีพีปี 63 ที่ปรับลดลงเหลือ 1.5% ถือเป็นตัวเลขคาดหวังจากการมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาหลังรัฐบาลเริ่มเบิกจ่ายได้ เช่น  มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งมองว่าหากมีเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นภาคการบริโภคได้อย่างน้อย 100,000 ล้านบาท ก็จะช่วยกระตุ้นตัวเลขเศรษฐกิจไทยได้ ซึ่งมองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสมควรเริ่มจากการกระตุ้นการบริโภค เพื่อเพิ่ม sentiment และความเชื่อมั่นนักลงทุน หลังจากนั้นจึงกระตุ้นการลงทุนและการออกมาตรการที่จะช่วยหนุนให้เกิดการลงทุน ทั้งนี้ มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0.75% เพื่อช่วยประคองภาวะเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวหนัก.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้