เลขาธิการศาลยุติธรรมชี้คดีฆาตกรรมพี่ชายผู้พิพากษา เป็นการคุกคามรุนแรงที่สุด

กทม.24 ก.พ.-  เลขาธิการศาลยุติธรรมยอมรับคดีฆาตกรรมพี่ชายผู้พิพากษาศาล เจ้าของคดีโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” เป็นการคุกคามการพิจารณาคดีที่รุนแรงที่สุด 


นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่าเหตุการณ์อุ้มลักพาตัวพี่ชายนางสาวพนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีเรื่องรุนแรงที่สุดในการคุกคามการทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ซึ่งจากการพูดคุยกับนางสาวพนิดา ยอมรับว่าถูกคุกคามเรื่อยมาตั้งแต่รับพิจารณาคดีปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาท ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง แต่ไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดที่ถูกคุกคามได้

แม้ขณะนี้ตำรวจจะสามารถจับตัวผู้ต้องหาในคดีอุ้มลักพากตัวได้บางส่วน แต่นางสาวพนิดา ยังไม่ไว้วางใจ สำนักงานศาลยุติธรรมจึงจัดตำรวจในการดูแลคุ้มครองความปลอดภัย ส่วนวันที่ 20 มีนาคม 2563 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์นั้น เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการเลื่อนฟังคำพิพากษาหรือไม่ เนื่องจากเป็นอิสระของศาลอาญากรุงเทพใต้ในการพิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำคำพิพากษา แต่เชื่อว่าการข่มขู่ตัวผู้พิพากษาไม่มีผลต่อการตัดสินคดี เนื่องจากที่ผ่านมานางสาวพนิดา และผู้พิพากษาทุกคนยึดมั่นในจริยธรรมและข้อกฎหมายที่จะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม ปราศจากอคติ 


สำหรับการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้พิพากษาศาล บุคลากรของศาล และประชาชนที่เดินทางมาศาล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมยอมรับว่าปัจจุบันตำรวจศาลมีเพียง 35 นาย ประจำอยู่ส่วนกลาง ไม่เพียงพอสำหรับการดูแลศาลกว่า 270 แห่งทั้งประเทศ หากศาลใดร้องขอมาก็จะจัดกำลังไปดูแล อาทิ ศาลอาญากรุงเทพใต้, ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นต้น ที่ผ่านมาหากกำลังไม่เพียงพอก็จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ช่วยดูแลอีกทาง โดยช่วงเดือนเมษายน 2563 สำนักงานศาลยุติธรรมได้ขอเพิ่มกำลังตำรวจศาลเป็น 309 นาย และในอนาคตจะขยายกำลังเพิ่มเป็นประมาณ 1,200 อัตรา เพื่อกระจายไปยังศาลที่มีความเสี่ยงและมีความจำเป็นเร่งด่วน

เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมยังระบุถึงหลักการเรื่องความเป็นกลางหรือการพิพากษาคดี ยังเป็นเรื่องสำคัญหากถูกแทรกแซงหรือข่มขู่ ความเป็นธรรมในคดีก็จะไม่เกิด ซึ่งจะกระทบต่อประชาชน ยืนยันว่าจะดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนรายละเอียดของคดีให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการชี้แจงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี