ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ก.พ.-ศาล รธน.เตรียมอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ปมกู้เงิน 191.2 ล้านบาทแล้ว ด้านองค์กรต่างประเทศร่วมสังเกตการณ์ ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ไม่ส่งตัวแทนร่วมฟัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง(3) ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้านบาท ซึ่งแกนนำของพรรคอนาคนใหม่และกลุ่มผู้สนับสนุนไม่ได้เดินทางมารับฟังคำวินิจฉัย มีเพียงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่มาเฝ้าติดตามทำข่าวเท่านั้น ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และ สน.ทุ่งสองห้องที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ 1 กองร้อยมาประจำการภายในตัวอาคารสำนักงานและบริเวณโดยรอบ
ทั้งนี้มีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่างประเทศและตัวแทนสถานทูตทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อียู และเยอรมัน ทยอยเดินทางมาร่วมฟังคำวินิจฉัย ขณะที่นายสมพล พรผล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมือง เป็นตัวแทนของ กกต.เดินมารับฟังคำวินิจฉัย ส่วนพรรคอนาคตใหม่ไม่มีการส่งตัวแทน หรือทนายเข้าร่วมฟัง อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญนัดออกบังลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าวในเวลา 15.00 น.
อย่างไรก็ตาม แนวคำวินิจฉัยที่ศาลจะมีต่อคดีนี้สามารถแบ่ง เป็น 3 แนวทาง โดย 1.ศาลเห็นว่าผิดจริงตัดสินยุบพรรค เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 10 ปี ตามแนวคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยไว้ในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งถ้าเป็นแนวทางนี้ กกต.จะมีการดำเนินคดีอาญาซ้ำตามหลังด้วย 2.ศาลเห็นว่าพรรคไม่มีความผิดตามมาตรา 72 ให้ยกคำร้อง 3.มีความผิด แต่เป็นความผิดตามมาตรา 62 มาตรา 66 พ.ร.ป.พรรคการเมืองเท่านั้น ไม่อยู่ในอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาจึงยกคำร้องยุบพรรค ซึ่งหากเป็นแนวทางนี้เรื่องดังกล่าวก็จะวนกลับมาที่กกต.จะต้องเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2561 เพื่อที่จะดำเนินคดีอาญา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 60 มาตรา 124 ที่กำหนดเอาผิด ผู้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทต่อปี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้น 5 ปี และมาตรา 125 ที่กำหนดเอาผิดพรรคการเมืองที่รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น 5 ปี และให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดส่วนที่เกินมูลค่าที่กฎหมายกำหนดไว้ 10 ล้านบาทตกเป็นของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง รวมทั้งอาจมีการดำเนินคดีในกรณีที่พรรคมีการนำเงินรายได้ของพรรคที่ได้จากการระดมทุน การรับบริจาค ขายของที่ระลึก ซึ่งกฎหมายกำหนดห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากการดำเนินงานของพรรคการเมืองตามมาตรา 87 ไปใช้หนี้เงินกู้ให้กับธนาธร โดยมาตรา 132 กำหนดโทษไว้หากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และเหรัญญิกพรรคผู้ใดนำเงินหรือยินยอมให้บุคคลนำเงิน ทรัพย์สินของพรรคไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอืน หรือนำไปใช้เพื่อการอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 87 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี ปรับ ตั้งแต่ 1 – 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการเอาผิดทางอาญานั้นจะต้องต่อสู้ในศาลถึง 3 ศาล.-สำนักข่าวไทย