นนทบุรี 18 ก.พ. – พาณิชย์ชี้อี-คอมเมิร์ซและดิจิทัลคอนเทนต์มาแรง ไวรัสโควิด-19 หนุนคนใช้ออนไลน์
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า อี-คอมเมิร์ซและบริการดิจิทัลคอนเทนต์กำลังมาแรงท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และประเมินว่าการส่งออก-นำเข้า การขนส่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อย ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังท่าเรือ-ด่านศุลกากรจีนกลับมาเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปที่สาธารณะและใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น การค้าออนไลน์เป็นอีกช่องทางการค้าสำคัญที่จะช่วยเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่จีนมีความต้องการสูงระยะนี้ รวมถึงสินค้าที่ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งขนาดเล็ก สินค้ากลุ่มอโรมา และผลิตภัณฑ์สปา คุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าไทยจะเป็นแต้มต่อให้และช่วยรักษาโอกาสทางการค้าในช่วงความท้าทายนี้ได้
อย่างไรก็ตาม จากรายงาน JD.com ระบุว่ายอดการสั่งซื้อข้าวและผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 154 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เช่นเดียวกับสินค้าอาหารทะเล และเนื้อวัว นอกจากนี้ มีรายงานว่าประชาชนส่วนใหญ่นิยมสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ร้านอาหารหลายแห่งเริ่มปรับตัวและให้บริการร่วมกับแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ มากขึ้น อาทิ ปรับระยะทางของการส่งอาหารให้ไกลขึ้น จำหน่ายสินค้าอาหารแช่แข็ง อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 การไปรษณีย์สาธารณรัฐประชาชนจีนประชุมร่วมกับบริษัทขนส่งรายใหญ่ 7 บริษัท ได้แก่ Zhongtong, Yuantong, Shentong, Yunda, Best, Debang and Suning เตรียมความพร้อมด้านการขนส่ง เพื่อสนับสนุนความต้องการผ่านทางช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งได้เริ่มขนส่งตามปกติแล้ว และคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้การขนส่งประมาณร้อยละ 40 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ ภาคบริการกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพในการเติบโตและขยายโอกาสทางการค้าในภาวะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยพบว่าคนจีนมีสถิติการค้นหากิจกรรมออนไลน์ อาทิ เกมส์ออนไลน์ ออกกำลังกายผ่านแอปพลิเคชั่น และบริการปรึกษาทางการแพทย์ สนค. มองว่าช่วงนี้เป็นโอกาสดีสำหรับไทยในการตีตลาดกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น ละครหรือรายการทีวี ที่เริ่มได้รับความนิยมสูงในจีน และใช้โอกาสนี้ในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทย รวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อเพิ่มการรับรู้และกระตุ้นความต้องการต่อสินค้าและบริการไทยมากขึ้น หากสถานการณ์คลี่คลายโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
สำหรับการส่งออกและนำเข้าสินค้า ท่าเรือสินค้า ด่านศุลกากรและหน่วยงานต่าง ๆ กลับมาเปิดทำการปกติตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยกเว้นมณฑลหูเป่ยที่ยังคงปิดทำการมีเพียงบางแห่ง เช่น ท่าเรือหยางหลัวในอู่ฮั่นที่เปิดเป็นท่าสำหรับรับสินค้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ คาดว่าอาจใช้ระยะเวลา 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อทยอยระบายสินค้าที่ยังค้างอยู่ในช่วงปิดทำการก่อนกลับเข้าสู่การจราจรปกติ อย่างไรก็ตาม บางแห่งอาจมีความล่าช้าอยู่บ้างเนื่องจากสินค้าหนาแน่น และพนักงานบางส่วนยังคงปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from home) ดังนั้น ระยะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ส่งออกควรประสานคู่ค้าท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อขอคำแนะนำเส้นทางการขึ้นสินค้าที่เหมาะสม รวมทั้งการหาห้องเย็นและตู้คอนเทนเนอร์เพื่อเก็บรักษาสินค้าที่เน่าเสียง่าย ระหว่างรอดำเนินการ
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกกำลังติดตามความคืบหน้าการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าในระยะข้างหน้า องค์กรวิจัยด้านเศรษฐกิจ EIU คาดการณ์ว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในไตรมาสแรก และประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวที่ร้อยละ 5.4 โดย สนค.คาดว่ารัฐบาลจีนจะมีการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมาหลังจากนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และรักษาโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศกว่า 62 แห่ง ใน 42 ประเทศทั่วโลกได้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าต่าง ๆ มายังกระทรวงพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งให้ผู้ส่งออกทราบสถานการณ์และปรับแผนการส่งออกอย่างทันท่วงที
สำหรับปี 2562 การส่งออกจากไทยไปจีนมีมูลค่า 29,172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนเป็นตลาดหลักสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ผลไม้สดแช่แข็งและแห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเมืองส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ กวางตุ้ง (ร้อยละ 28.0) เซี่ยงไฮ้ (ร้อยละ 26.0) และซานตง (ร้อยละ 14.0) ตามลำดับ โดยในปี 2563 กระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนในการทำตลาดจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าศักยภาพที่การส่งออกจากไทยไปจีนมีการขยายตัวสูง โดยเน้นทั้งเมืองใหญ่และการเจาะตลาดลึกในรายมณฑลสินค้าสำคัญที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการส่งออกไปจีนในปี 2563 เช่น ผลไม้สดแช่แข็ง และผลไม้แห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องสำอาง รถยนต์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย