“ปิยบุตร” แถลงปิดคดีนอกศาลไม่ผิดคดีเงินกู้ 191 ล้านบาท

อนาคตใหม่ 18 ก.พ.- “ปิยบุตร” แถลงปิดคดีนอกศาล  ยืนยัน พรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิดคดีกู้เงิน “ธนาธร”  ระบุ ในเอกสารข้อห้ามของ กกต.ไม่มีระบุเรื่องกู้เงิน  ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้อง มั่นใจ ส.ส.พรรคไม่เติมคะแนนให้รัฐบาล


นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงปิดคดีนอกศาล ที่ พรรคอนาคตใหม่ ในคดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน 191 ล้านบาท จากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ว่า เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ไต่สวนพยาน และได้นัดอ่านคำวินิจฉัย วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 15.00 น. ทำให้พรรคอนาคตใหม่ไม่มีโอกาสได้ไต่สวนพยานบุคคล และแถลงปิดคดีในศาลรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องแถลงปิดคดี วันนี้ (18 ก.พ.)  

นายปิยบุตร กล่าวว่า การแถลงปิดคดีครั้งนี้  มี 5 ประเด็น คือ  ทำไมพรรคอนาคตใหม่จึงกู้เงินนายธนาธร เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่จดจัดตั้งวันที่ 15 มีนาคม 2561 และรอจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2561 และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองสถานะในวันที่ 3 ตุลาคม 2561 จากนั้นวันที่ 6 ตุลาคม 2561 ได้เปิดแคมเปญรับสมัครสมาชิกพรรค ขายสินค้าออนไลน์ ระดมทุน และรับบริจาค เพื่อให้กระบวนการทุกอย่างครบตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง  


นายปิยบุตร กล่าวว่า แต่ในช่วงนั้น ยังมีคำสั่ง คสช.ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง จนกระทั่ง วันที่ 11 ธันวาคม 2561 คสช.ถึงมีคำสั่งปลดล็อคให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้  ทำให้พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่มีข้อจำกัด ในการหาเงินทำกิจกรรมทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ทำให้พรรคอนาคตใหม่ตัดสินใจกู้เงิน และขายของที่ระลึก  เพราะไม่ต้องการระดมทุนจากกลุ่มทุนผูกขาด ไม่ต้องการให้มีนายทุน และไม่ต้องการปกปิดการกู้เงิน จึงเปิดเผยผ่านงบการเงิน  

นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคการเมืองในประเทศไทยสามารถกู้เงินได้ ตามกฎหมาย เพราะเป็นนิติบุคคลเอกชน ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ที่ต้องมี พ.ร.บ.จัดตั้ง ขณะที่ สำนักงาน กกต. เคยเชิญพรรคการเมืองไปชี้แจงก่อนการเลือกตั้ง ถึงข้อห้ามและบทลงโทษต่างๆ และแจกเอกสารความผิดและอัตราโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง  ซึ่งตนได้เปิดอ่านทุกหน้า ไม่มีสักบรรทัดเดียว ที่ห้ามพรรคการเมืองกู้เงิน หากมีเขียนไว้ชัดๆ พรรคอนาคตใหม่คงไม่กู้


นายปิยบุตร กล่าวว่า  พรรคการเมืองต้องส่งงบการเงินให้กับ กกต. ครั้งแรก ช่วงเดือนธันวาคม 2561  พบว่ามี 16 พรรคระดมทุนในลักษณะเงินทดรอง และอีก 4 พรรคใช้การกู้เงิน แต่ไม่ว่าจะกรณีใด ก็ล้วนเป็นนิติกรรมกู้ยืมเงินทั้งสิ้น   ขณะนี้ มีพรรคการเมืองกู้เงินมากกว่า 20 พรรค หากวันนี้ไม่ต้องการให้พรรคการเมืองกู้เงิน ก็ควรไปแก้ไขกฎหมายให้ชัดในอนาคต หรือถ้าจะให้พรรคการเมืองกู้เงินได้ ก็แก้ไขกฎหมายเพื่อตั้งกองทุนให้พรรคการเมืองกู้เงินได้ เพื่อความเสมอภาค เพราะแต่ละพรรคมีความสามารถในการระดมทุนไม่เท่ากัน 

“ที่สำคัญเงินกู้ไม่ใช่รายได้  ไม่ใช่เงินบริจาค และไม่ใช่ประโยชน์อื่นใด แต่คือหนี้สิน งบการเงินของแต่ละพรรคที่แสดงต่อ กกต. ในส่วนของเงินกู้ล้วนจัดไปอยู่ในหมวดหนี้สิน ดังนั้น การที่มาตรา 62 ของกฎหมายพรรคการเมือง ไม่ได้กำหนดเรื่องรายได้ที่มาจากเงินกู้ ย่อมถูกต้องตามระบบบัญชี ต่อให้ กกต.จะตีความหรือขยายความว่าเรามีความผิด ก็จะมีโทษแค่การปรับเท่านั้น” นายปิยบุตรกล่าว 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ในชั้นไต่สวน กกต.ได้สอบถามว่า เพราะสงสัยว่าพรรคอนาคตใหม่จะสามารถชำระหนี้คืนได้หรือไม่  ซึ่งตนก็สงสัยเหมือนกันว่า กกต.เคยไปถามพรรคการเมืองอื่นๆ แบบนี้หรือไม่ ถ้าไปเปิดงบการเงินของพรรคอนาคตใหม่ จะพบว่าพรรคระดมทุน ขายสินค้าของที่ระลึกได้มากกว่า 70 ล้านบาท และทยอยคืนเงินให้หัวหน้าพรรคแล้วส่วนหนึ่ง 

นายปิยบุตร กล่าวว่า กระบวนการในชั้น กกต.มีความผิดปกติ ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ กรณีมาตรา 66 คณะอนุกรรมการเรียกพรรคเป็นพยานก่อนที่ต่อมาจะยกคำร้องว่า พรรคการเมืองกู้เงินได้ แต่ กกต.ก็ยังส่งให้คณะอนุกรรมการอีกคณะ โดยมีมติเช่นเดิม  2 คณะให้ยกคำร้องไปแล้ว ซึ่งตามกฎหมายจะต้องยุติ แต่ กกต.กลับเดินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ส่วนกรณีมาตรา 72 กกต.ใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ ในการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค โดยไม่เคยมีการแจ้งข้อกล่าวหากับพรรคอนาคตใหม่ และไม่เคยมีการเรียกไปให้ข้อมูลใดๆ   พรรคอนาคตใหม่รู้ว่าถูกร้องยุบพรรคพร้อมประชาชนทั่วประเทศ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2562  

“แบบนี้หลักประกันการต่อสู้คดีของพรรคอนาคตใหม่อยู่ตรงไหน  กกต.เป็นองค์กรอิสระ ไม่ใช่นักร้อง ที่จะหยิบบัตรสนเท่ห์ และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ กกต.จะรีบอะไรขนาดนั้น  ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีบรรทัดฐานว่า การพิจารณาคดีข้ามขั้นตอนของ กกต. เป็นสาระสำคัญที่ทำให้มีการวินิจฉัยยกคำร้องมาแล้วจากกรณีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกกล่าวหารับเงินจากเอกชน” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ในอีกแง่หนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรค และไม่มีอำนาจตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค กล่าวคือ รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 210 (3) บัญญัติว่าหน้าที่และอํานาจอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเมื่อพิจารณารัฐธรรมนูญแล้ว ไม่มีมาตราใดที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค โดยอำนาจยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคมีอยู่ใน มาตรา 92 ของกฎหมายพรรคการเมืองเท่านั้น ดังนั้น ประเด็นนี้เป็นประเด็นข้อกฎหมายที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยก่อนว่า มาตรา 92 ของกฎหมายพรรคการเมืองขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

นายปิยบุตร กล่าวว่า บทลงโทษของมาตรา 66 มีแต่โทษเพิกถอนสิทธิของบุคคลที่บริจาคเงินเกิน และโทษปรับบุคคลที่บริจาคเงินเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด ส่วนพรรคที่รับเงินดังกล่าว ก็ต้องส่งเงินคืนและเพิกถอนสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเท่านั้น โดยไม่มีการยุบพรรค  ที่สำคัญ กระบวนการนี้ต้องเป็นไปตามกระบวนการปกติ คือ กกต.พิจารณา และส่งศาลอาญา และสู้กันถึง 3 ศาล โดยศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยว  

นายปิยบุตร กล่าวว่า ส่วนกรณีมาตรา 72 กฎหมายมีวัตถุประสงค์ป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองเอาเงินสีเทามาใช้ในพรรค ถามว่าการกู้เงินผิดอย่างไร เพราะเงินที่มาก็มีแหล่งที่มาที่ถูกกฎหมาย ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมาตรา 72 

“เหตุที่ต้องหยิบ 72 มาเป็นประเด็น เพราะ กกต.เห็นว่า มีโทษยุบพรรค กกต.ถึงจะส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคได้ การมาบอกว่า เมื่อกฎหมายไม่ให้กู้เงินแล้ว โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบย่อมเป็นความผิดนั้น ขอชี้แจงว่า พรรคไม่มีทางรู้ว่า กกต.จะตีความพิสดารขนาดนี้  ถ้าพิสูจน์เจตนา ก็ชัดเจนว่า พรรคไม่มีทางรู้เลยว่า กกต.จะตีความแบบนี้ ดังนั้น ยืนยันได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีความผิดตามมาตรา 62 มาตร 66 มาตรา 72 ศาลรัฐธรรมนูญต้องยกคำร้อง” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า วันที่ 21 กุมภาพันธ์ นี้ หากยุบพรรคจริง จะเป็นครั้งแรกที่ยุบพรรคฝ่ายค้าน และยุบก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 วัน พรรคอนาคตใหม่เริ่มต้นสร้างความหวังใหม่ให้กับคนรุ่นหนุ่มสาว  ถ้าเกิดการยุบพรรคขึ้น จะไม่ใช่แค่การยุบพรรคเท่านั้น  แต่เป็นการยุบความหวังของคนรุ่นใหม่  และยังเป็นการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น ที่ต้องการให้ประเทศไทยหลุดจากวงจรรัฐประหาร และการลดความเหลื่อมล้ำ 

“พัฒนาการประชาธิปไตยกำลังเดินไปตามครรลอง อย่าเอานิติสงครามมาเป็นเครื่องมือ เพราะไม่เป็นคุณต่อการพัฒนาประเทศไทย ตรงกันข้ามจะตอกลิ่มให้ความแตกแยกร้าวลงไปเรื่อยๆ ฝากถามไปยัง กกต.และผู้บริหาร กกต. ในฐานะผู้ร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า ตื่นเช้ามาในแต่ละวัน ส่องกระจกแล้วถามตัวเองดังๆ ว่า คุณต้องการยุบพรรค เพราะเป็นพรรคอนาคตใหม่ใช่หรือไม่  และไม่ต้องการให้ธนาธรและปิยบุตรมีบทบาทในทางการเมืองใช่หรือไม่” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า  พรรคจะนัด ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และผู้สนับสนุนของพรรคมาร่วมฟังคำวินิจฉัยพร้อมกัน ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 15.00 น. ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ และจะเปิดทำการขายสินค้าของพรรค รับบริจาค และเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เพื่อให้เห็นกันไปว่า พรรคที่กำลังโดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กลับมีผู้มาสนับสนุนจำนวนมาก 

“ท้ายที่สุดแล้ว หนังยุบพรรคเรื่องนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะพรรคอนาคตใหม่จะไม่หายไป นายธนาธร และนายปิยบุตรจะไม่หายไป แต่จะเห็นว่าพวกเราโลดแล่นมากกว่าเดิม  ส.ส.ของพรรคจะไม่เติมให้กับรัฐบาล” นายปิยบุตร กล่าว .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]