คลังพร้อมออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจปี 63

กรุงเทพฯ 17 ก.พ. – กระทรวงการคลังติดตามประเมินเศรษฐกิจใกล้ชิด พร้อมพิจารณามาตรการดูแลเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมต่อไป


นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศอัตราการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมของไทยไตรมาส 4 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 1.6 และเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 2.4 ต่อปี ขยายตัวชะลอลงจากปี 2561 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 ต่อปี โดยสาเหตุหลักของเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ขยายตัวชะลอลงมาจาก มูลค่าการส่งออกสินค้าที่หดตัวร้อยละ 4.9 เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ทรงตัวร้อยละ 0.0 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนและสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวในระดับสูง โดยเฉพาะในหมวดยานยนต์จากการลดสายการผลิตรถยนต์รุ่นเดิมเพื่อรอเปลี่ยนโมเดลรถยนต์รุ่นใหม่ และหมวดน้ำมันปิโตรเลียมจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นชั่วคราวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเลียมหลายแห่ง ซึ่งปัจจุบันกลับมาดำเนินการผลิตตามปกติแล้ว ดังนั้น ผลกระทบต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นถือเป็นปัจจัยชั่วคราว และการลงทุนภาครัฐจะชะลอตัว โดยมีสาเหตุมาจากความล่าช้าของการบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2563 อย่างไรก็ดี พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภา แล้ว ขณะที่การลงทุนรัฐวิสาหกิจยังคงเบิกจ่ายได้ดี เป็นผลมาจากกระทรวงการคลังได้มีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง โดยให้รัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายให้เร็วขึ้นในส่วนโครงการที่สามารถดำเนินการได้ก่อน (Front-Loaded) เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2562 โดยช่วงดังกล่าวรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายได้ดี ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจที่ขยายตัว เช่น การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 เช่น มาตรการชิมช้อปใช้ และมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีผลต่อการบริโภคภาคเอกชนให้กลับมาฟื้นตัวและมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาการที่กระทรวงการคลังออกมาตรการเพื่อดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์เมื่อเดือนธันวาคม 2562


สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2563 ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงรายได้ของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว กระทรวงการคลังจึงดำเนินการมาตรการการเงินการคลังเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวปี 2563 โดยจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวผ่านสถาบันการเงินของรัฐ แบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบกิจการโรงแรมสามารถหักรายจ่ายสำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายในการปรับปรุงกิจการโรงแรมเป็นจำนวน 1.5 เท่า ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยการให้หน่วยงานสามารถหักรายจ่ายสำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายในจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศเป็นจำนวน 2 เท่า รวมถึงบรรเทาผลกระทบให้แก่ประชาชนผู้เสียภาษี โดยการขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไปเป็นภายในเดือนมิถุนายน 2563 

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ดำเนินมาตรการการเงินการคลังเพื่อสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศปี 2563 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยและกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ ประกอบด้วยมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ มาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และมาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาและปรับปรุงการผลิตสินค้าให้มีศักยภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ดังกล่าวไปได้ 

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดและมีความพร้อมที่จะดำเนินมาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเศรษฐกิจไทยปัจจุบันมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ไม่มีแรงกดดันด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งอัตราเงินเฟ้อต่ำ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และฐานะทางการคลังสะท้อนจากหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพียงร้อยละ 41.3 ถือว่ายังอยู่ในระดับที่เข้มแข็งมาก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่

“แพทองธาร” ควง “ทักษิณ” ทำบุญเปิดที่ทำการพรรคเพื่อไทยแห่งใหม่ รมต.-แกนนำ-สส. พรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง ด้าน “ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการ ภท. มอบกระเช้าแสดงความยินดี

ชายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม

ายฉกรรจ์ดักรุมทำร้ายหมอ หน้าคลินิกเวชกรรม ย่านธุรกิจสีลม จนเลือดอาบ เบื้องต้นไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนหนาวเย็นลง 1-2 องศาฯ ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย

ระทึก! ปิดล้อมก่อนปะทะ แนวร่วมดับ 4 ที่ยะลา คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่

เหตุปิดล้อมปะทะกลุ่มคนร้าย ที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันมีคนร้ายเสียชีวิต 4 ราย คาดเตรียมก่อเหตุใหญ่ในพื้นที่

ออกหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายหมอเจ้าของคลินิกเวชกรรม

ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ชายฉกรรจ์รุมทำร้ายนายแพทย์ เจ้าของคลินิกเวชกรรม ย่านสีลม ด้านผู้เสียหายเชื่อมีคนบงการ เพราะมีการวางแผนเป็นระบบ ส่วนอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว

ญาติร้องสื่อ หนุ่ม ปวส.ฝึกงานที่ญี่ปุ่น ดับปริศนา

น้าสาวร้องสื่อ หลานชายจบ ปวส. ฝึกงานที่ญี่ปุ่น หายตัวปริศนา 1 เดือน สุดท้ายกลายเป็นศพ วอนช่วยประสานนำร่างกลับไทย เชื่อถูกฆาตกรรม เผยร้องหลายหน่วยงานนานนับเดือน แต่ไร้ความช่วยเหลือ