เลย 17 ก.พ.- ชุดอุทยานฯ ภูกระดึง ระดมกำลังต้านไฟป่านานข้ามคืนข้ามวัน ท่ามกลางลมแรง เร่งกันศูนย์บริการวังกวาง และคุมได้ให้อยู่ในวงจำกัด ประเมินพื้นที่เสียหายกว่า 2,000 ไร่ รวมถึงป่าสนจุดเด่นของภู
นายอดิศร เหมทานนท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง จ.เลย รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟไหม้ป่าภูกระดึงว่า ช่วงเช้าวานนี้ (16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าดับไฟที่เกิดขึ้นบริเวณซำขอนแดง ห่างจากหน้าผาประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ด้วยสภาพความแห้งแล้งประกอบกับกระแสลมแรง ทำให้สะเก็ดไฟลอยข้ามแนวกันไฟมาตกในพื้นที่บริเวณหลังแปห่างจากหน้าผาประมาณ 400 เมตร ด้านผาเมษา และลามขึ้นหลังแปช่วงเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสากว่า 100 คน พร้อมรถแทรกเตอร์ 3 คัน รถน้ำ 4 คัน เข้าควบคุมสถานการณ์ ควบคู่กับการทำแนวกันไฟและชิงเผากลับตามเส้นทางหลังแป-วังกวาง รวมทั้งเส้นทางหลังแป – หมากดูก – สระใหญ่ เบื้องต้นสามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ประเมินพื้นที่เสียหายประมาณ 2,000 ไร่ โดยพื้นที่เสียหายแบ่งตามแบ่งตามชนิดป่า ได้แก่ ป่าสน ป่าก่อ และทุ่งหญ้า
นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ไฟป่าของภูกระดึงขณะนี้ควบคุมไฟไว้ได้หมดแล้ว และทำแนวกันไฟไม่ให้ลามมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ ส่วนไฟป่าบริเวณเส้นทางผาหมากดูกได้ข้ามแนวควบคุมและขยายตัวไปทางสระแก้ว จึงสั่งการให้แบ่งกำลังไปควบคุม โดยใช้วิธีทำแนวกันไฟและชิงเผากลับจากเส้นทางองค์พระพุทธเมตตา – สระแก้ว – สะพานหิน – สระอโนดาษ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการควบคุมไฟตลอดทั้งคืน แม้เริ่มอ่อนล้า อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของไฟป่าได้ลดลงและดับได้แล้วในบางจุด โดยพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายอย่างน่าเสียดาย คือ ป่าสน ซึ่งเป็นป่าต้นสนสองใบและสามใบ ถือเสน่ห์ของภูกระดึงจากสาเหตุไฟไหม้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ชุดเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ประชาชน ลูกหาบ และนักท่องเที่ยวได้ช่วยกันดับไฟป่าเพื่อไม่ให้เข้าสู่พื้นที่รอบศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งเป็นจุดพักแรม ร้านอาหาร และบ้านพักของเจ้าหน้าที่นั้น พบว่ามีกวางป่าตื่นตกใจกับไฟป่า เจ้าหน้าที่พยายามเข้าช่วยเหลือและบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ แต่กวางวิ่งหนีเตลิดหายไป.-สำนักข่าวไทย
ขอบคุณภาพ : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง