กรุงเทพฯ 15 ก.พ.-นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์
อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า กรมรางฯ
จะมีมาตรการเน้นการจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
โดยมาตรการแรกคือการปรับลดราคา
หลังจากได้ปรับลดราคาในช่วงออฟพีคของรถไฟฟ้าสายสีม่วงมาแล้ว
และพบว่ามีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 24
จึงได้หารือร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีระยะเวลาเพียง 3
เดือนว่าจะต่ออายุมาตรการหรือไม่ รวมถึงเสนอให้ปรับอัตราค่าที่จอดรถ
ซึ่งปัจจุบันเฉพาะพื้นที่จอดรถของสายสีม่วง มีที่จอดรถประมาณ 4,923 คัน แต่พบว่า
มีการจอดประมาณร้อยละ 19 เท่านั้น จึงเสนอให้ปรับลดราคาลงหรืออาจจะเป็นการให้จอดฟรี
นอกจากนี้จะเสนอให้บริษัท
ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
ทำตั๋วเดือน แต่ทาง BEM ขอประเมินก่อน
เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเปิดให้บริการครบลูป ช่วงเตาปูน-ท่าพระ
โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 3 เดือน
สำหรับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ก่อน
จะมีการปรับลดอัตราค่าโดยสารนอกช่วงเวลาเร่งด่วน ระหว่างวันจันทร์-วันศุกร์ (Off
Peak Weekday) ให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการทุกคน
จากปกติอัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15-45 บาทต่อเที่ยว จะปรับลดอยู่ที่ 15-25
บาทต่อเที่ยว ใน 3 ช่วงเวลา ดังนี้ เวลา 05.30 น. – 07.00
น., เวลา 10.00น. – 17.00น.
และ 20.00 น. -24.00น. ยกเว้นวันเสาร์และวันอาทิตย์
โดยการเดินทางสถานีแรกจะมีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาท สถานีที่ 2 อัตรา 20 บาท
และสถานีที่ 3 เป็นต้นไปอยู่ที่ 25 บาท ทางการรถไฟฯ
จะแจ้งมติพิจารณาของคณะกรรมการการรถไฟฯ
เกี่ยวกับเรื่องมาตรการดังกล่าวให้แอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ รับทราบ
เพื่อดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต่อไป
อธิบดีกรมการขนส่งทางรางยังกล่าวต่อว่า
ได้เชิญผู้ให้บริการรถไฟฟ้ามาหารือ โดยเตรียมเจรจาเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้า
เนื่องจากปัจจุบันค่าไฟฟ้าคิดเป็นแบบอัตราก้าวหน้า
โดยหากยิ่งเพิ่มความถี่ในการเดินรถก็จะยิ่งจ่ายค่าไฟยูนิตแพงขึ้น
ซึ่งหากต้องการให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ก็จะต้องมีการปรับอัตราใหม่
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทำการศึกษา เมื่อมีความพร้อมจะเสนอกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลเพื่อพิจารณาในการสนับสนุนต่อไป
สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM
2.5 ของรถไฟ ขณะนี้โรงงานซ่อมรถจักรที่มักกะสัน
ได้เร่งรอบเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้เร็วขึ้น รวมถึงได้ร้องขอเครื่องตรวจจับควันดำ
เพราะขณะนี้ยังไม่มีเครื่อง แต่ได้ขอความร่วมมือจากปตท.ในการมาตรวจจับควันดำก่อนการให้บริการ
รวมถึงการติดตั้งฟิลเตอร์ที่เครื่องกรองเขม่า โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ
นอกจากนี้ การรถไฟฯ
ยังได้เริ่มทดลองใช้น้ำมันบี20 สายวงเวียนใหญ่-บ้านแหลม ซึ่งตอนนี้ทดลองแล้ว 17
หัวรถจักร จากทั้งหมด 220 หัวรถจักร หากทดลองแล้วเป็นผลดี
ก็จะนำมาใช้กับรถไฟทั้งหมด
ซึ่งเป็นแผนของกระทรวงคมนาคมในปี 2565 อยู่แล้ว
แต่จะเร่งให้ทำให้เสร็จภายในปีนี้ เบื้องต้น หลังจากทดลองใช้ 3-4
เดือนที่ผ่านมาถือว่าการทดลองเป็นที่น่าพอใจ
แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูในระยะยาวว่าส่งผลต่อเครื่องยนต์หรือไม่ โดย ปตท.จะเป็นผู้ศึกษา
เรื่องการลงทุนและถังน้ำมันบี 20 ซึ่งเป็นถังน้ำมันพิเศษ
ป้องกันการระเหย.-สำนักข่าวไทย