กทม.14 ก.พ.- ตำรวจ ปอท. จับหนุ่มหัวใส พ้นโทษกับมาก่อเหตุซ้ำ รับจ้างทำเอกสารราชการปลอม ผ่านหน้าเว็บบอร์ด รับทำมา 2 ปี มีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้าน
ของกลางที่ที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท.ตรวจยึดได้ เป็นบัตรประชาชนกว่า 20 ใบ , ใบอนุญาตขับขี่ , บัตรเอทีเอ็ม , สมุดบัญชีเงินฝาก และคอมพิวเตอร์แม็กบุ๊กตั้งโต๊ะ 1 เครื่อง พร้อมจับกุมนายปิยะบุตร ศรีสุวรรณ์ อายุ 33 ปี ที่บ้านพักในตำบลหนองนาคำ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ขณะกำลังทำบัตรประชาชนปลอมให้ลูกค้า
พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการ ปอท. เปิดเผยว่า หลังพบมีผู้ไปโพสต์ประกาศรับจ้างทำเอกสารราชการปลอม เช่น บัตรประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ ทะเบียนบ้าน ใบปริญญาบัตร ใบทรานสคริปต์ ใบรับรองการเป็นนักศึกษา ใบรางวัลการศึกษาดีเด่น บัตรประจำตัวนักศึกษา บัตรประจำตัวผู้นำเที่ยว หรือไกด์ ก็ทำการสืบสวนจนตามไปกุมตัวได้
จากการสอบสวน เจ้าตัวก็รับสารภาพว่าทำแบบนี้มาแล้ว 2 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 10 ล้านบาท เริ่มแรกจะตั้งราคาทำเอกสารปลอมไว้ไม่แพง เช่น บัตรประชาชนจะเริ่มต้นที่ใบละ 2,000 บาท แต่เมื่อทำเสร็จแล้วจะอ้างกับลูกค้าว่า ต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นค่าติดสินบนเจ้าพนักงาน 2-3 คน คนละ 2,000-3,000 บาท ทำให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นหลักหมื่นบาท โดยเอกสารที่มีราคาแพงที่สุด เป็นใบทรานสคริปต์ ราคาใบละ 160,000 บาท เคยมีลูกค้าที่ถูกหลอกให้จ่ายเงินเพิ่ม ยอมโอนให้สูงสุดถึงหลักล้านบาท สาเหตุที่ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายราคาสูง เพราะอวดอ้างว่า ปลอมได้เหมือนของจริง 100% สามารถเอาไปใช้งานจริงได้ มีภาพคนที่ได้เอกสารจริงยืนยันให้เห็น ทั้งที่จากการสังเกตตัวบัตรแล้ว สีจะเพี้ยนไปเล็กน้อย ที่สำคัญคือไม่มีลายน้ำ หรือสัญลักษณ์พิเศษ ส่วนลูกค้าที่สั่งซื้อไปใช้งาน เบื้องต้นมีไม่ต่ำกว่า 30 คน ที่ปรากฎอยู่ในของกลางที่ยึดได้ และคาดว่ามีไม่ต่ำกว่าหลักร้อยคน ที่มีฐานข้อมูลอยู่ในคอมพิวเตอร์ จากนี้ จะเร่งสืบสวนขยายผล และตามตัวมาสอบสวนปากคำ เพื่อพิจารณาว่าจะเอาผิดฐานมีและใช้เอกสารทางราชการปลอมหรือไม่ ส่วนลูกค้าที่สั่งทำเอกสารปลอม ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่ต้องการบัตรประชาชนปลอม เพื่อใช้เข้าสถานบันเทิง กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยากมีบัตรประชาชนไทย และคนที่ต้องการวุฒิการศึกษาปลอมไปใช้สมัครงาน โดยยังไม่พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพว่าจ้าง เพื่อนำไปใช้ก่อคดี ส่วนข้อมูลที่ปรากฎในบัตรประชาชนปลอม ตรวจสอบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ปลอมขึ้นมาหรือหาของคนอื่นมาสวมรอย แต่ชิพบนบัตรจะไม่มีข้อมูลไม่สามารถนำไปใช้งานได้จริง
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายปิยะบุตร เคยถูกจับคดีรับทำเอกสารปลอมมาแล้วครั้งหนึ่ง รับโทษจำคุกประมาณ 1 ปี ก่อนจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ ตำรวจแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ ฉ้อโกงประชาชน , นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และฐานปลอมบัตร ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน.-สำนักข่าวไทย
