“อรรถวิชช์” นำจดจัดตั้ง “พรรคกล้า”

สำนักงาน กกต. 14 ก.พ.- “อรรถวิชช์” นำจดจัดตั้ง “พรรคกล้า” ชูแนวทางปฏิบัตินิยม-กล้าลงมือทำ หวังสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ปัดตั้งพรรคเพื่อรองรับ ส.ส.ย้ายพรรค-ถูกยุบพรรค


เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง   นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า  พร้อมด้วยนายวรวุฒิ อุ่นใจ  นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย  นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร  นักแต่งเพลง  เป็นตัวแทนยื่นจดทะเบียนจดจัดตั้ง “พรรคกล้า” ที่ได้รับการโหวตชื่อจากประชาชน 120,000 คน  มายื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยมีสัญลักษณ์พรรคเป็นลายเส้นรูปกำปั้น  ซึ่งสื่อถึงการลงมือทำ

นายอรรถวิชช์  กล่าวว่า ชื่อพรรคกล้าไม่ได้ขัดต่อระเบียบใด ๆ  ที่ใช้ชื่อพรรคกล้าเพราะตั้งใจอยากจะเห็นคนที่มีความสร้างสรรค์ เป็นผู้กล้า ต้องการเปิดพื้นที่ให้คนที่เป็นผู้กล้าเข้ามาสู่การเมืองให้ได้  เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ต้องใช้คนที่มีความรู้จากหลากหลายอาชีพเข้ามาทำงาน  พรรคกล้าจะเป็นการรวมกันของคน 3 รุ่น รุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นใหม่ เพราะเราเชื่อว่าคนทั้ง 3 รุ่น จะเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศ   จากนี้ตนและนายกรณ์ จาติกวณิช ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค  ก็จะรวบรวมรายชื่อให้ได้ผู้ก่อตั้งครบ 500 คน   โดยจะเดินสายเชิญบุคคลต่าง ๆ ในสังคมมาร่วมทำงานการเมือง


นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า การตั้งพรรคของเราไม่ได้ผูกติดกับการเมืองเก่า  เราอยากได้คนหลากหลายอาชีพ  เราตั้งโจทย์ว่าพรรคเราต้องเป็นพรรคที่มีความกระชับ ชัดเจน และมีความเป็นมืออาชีพ  ที่ผ่านมาคนที่มีความคิดสร้างสรรค์จะไม่ยอมเข้ามาสู่การเมือง  แต่ครั้งนี้เราจะเปิดพื้นที่ให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์กล้าที่จะเข้ามาสู่การเมือง  และที่มาตั้งพรรคในขณะนี้ ก็ไม่ใช่มารองรับการย้ายพรรคของ ส.ส. ที่อาจจะเกิดจากการยุบพรรคอนาคตใหม่  เพราะเป้าหมายของเราคือการเลือกตั้งครั้งหน้า  แต่ที่ต้องมายื่นตั้งในขณะนี้เพราะเรามีแนวความคิดเรื่องปฏิบัตินิยม ต้องใช้ทั้งประสบการณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความทันสมัย ซึ่งคนทั้ง 3 กลุ่มต้องช่วยกันในการทำความเข้าใจ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องอาศัยเวลา ไม่ฉะนั้นจะไปติดยึดกับบริบทการเมืองเก่า

“เราไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะเข้าสู่การเมืองในยุคการเลือกตั้งนี้   เพราะยังไม่มี ส.ส. สิ่งที่คาดหวังคือการเลือกตั้งครั้งหน้า   จึงคิดว่าถ้าเรามีเวลาประมาณปีเศษนี้ในการรวบรวมคน และทำความเข้าใจกับสังคมเรื่องปฏิบัตินิยมซึ่งเป็นเรื่องยาก  ต้องใช้เวลา เราจะสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้   และยังไม่อยากให้สังคมแยกเรา ว่าเราจะอยู่ซ้ายหรืออยู่ขวา เพราะอย่างที่บอกว่า กว่าเราจะมาถึงชื่อ  มาถึงดีเอ็นเอ  เราขอไม่แบ่งแยก  ขอเป็นพรรคในแนวปฏิบัตินิยมที่ไม่แบ่งซ้ายไม่แบ่งขวา  และไม่กลางด้วย” นายอรรถวิชช์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีกระแสว่าอาจจะมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ย้ายจากพรรคเดิมมาสังกัดกับพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า เป้าหมายของพรรคคือการเลือกตั้งครั้งหน้า   และการทำพรรคขึ้นมาไม่ได้เพื่อรวบรวม ส.ส.เพื่อไปแลกโควต้าอะไรทั้งสิ้น  ที่ทำพรรคในขณะนี้คิดว่าคนต้องการความหวัง  อยากเห็นพรรคที่ลงมือทำ เราจึงตัดสินใจตั้งพรรค ตอนที่ได้ชื่อพรรคกล้ามา มีการทำเวิร์กชอป 3 ครั้ง  ก็มีชื่อพรรคกล้ามาตลอด จึงคิดว่าสถานการณ์ขณะนี้คนอยากได้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ออกมาทำงาน ดังนั้นใครที่อยากจะเข้าร่วมก็สามารถที่จะส่งข้อมูลประวัติมาทางเพจเฟซบุ๊กที่จะเปิดในวันนี้ได้


เมื่อถามว่าการตั้งพรรคในช่วงนี้เพราะจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่   นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ยังไกลไป ขอให้การจัดตั้งพรรคเสร็จสิ้นก่อน คาดว่าจะมีการประชุมใหญ่พรรคต้นเดือน มี.ค.นี้  ส่วนที่มีข่าวว่าจะส่งนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์  อดีตผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย  ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.นั้น   นายธรรศพลฐ์ ก็เป็นคนที่ทำงานเก่ง และเป็นคนหนึ่งที่ยุให้ตั้งพรรค  เชื่อในแนวทางปฏิบัตินิยม แต่คงไม่ได้เข้ามาในรูปแบบกรรมการบริหารพรรค  ส่วนจะลงสมัครผู้ว่าหรือไม่ ยังไม่ได้มองไปถึงตรงนั้น  เพราะเป้าหมายของพรรคคือการเลือกตั้ง ส.ส. การเลือกตั้งท้องถิ่นจะต้องมีการคุยกันอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายวรวุฒิ กล่าวว่า เชื่อส่วนหนึ่งประเทศเรามีศักยภาพเติบโตมากมาย ถ้าไปดูอย่างประเทศเกาหลี สิงคโปร์  ไต้หวัน  เชื่อว่าด้วยทรัพยากรสามารถทำได้ดีไม่แพ้ประเทศเหล่านี้  ในวันนี้ที่ออกมาทำงานการเมือง เพราะถ้าหากพวกเรายังไม่มีพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ คงเปลี่ยนแปลงการเมืองไม่ได้   เราคงทำงานการเมืองแบบที่เห็นกันอยู่และคงลงมาเดินบนถนนอีก  ตนเชื่อว่าพรรคกล้ามุ่งพัฒนาเศรษฐกิจ  และเศรษฐกิจออนไลน์ พร้อมเรียกร้องคนที่มีของมีความรู้ความสามารถต้องออกมาช่วยกันทำงานการเมือง

ขณะที่นายมนต์ชีพ กล่าวว่า ตนเหมือนเป็นตัวแทนประชาชน  แต่เป็นประชาชนที่สนใจการเมือง และตนก็เห็นมามากว่าพวกที่สนใจการเมืองแล้ววิพากษ์วิจารณ์การเมืองทั้งในแง่บวกหรือลบ แต่เชื่อว่าการวิจารณ์นั้นไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนทางการเมือง จึงตัดสินในเข้ามาร่วมทำงานการเมือง ถือเป็นการเริ่มปฏิบัติ หลังแค่วิพากษ์วิจารณ์อย่างเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้ว ร่วมประชุม RBC ชุดใหญ่ที่สระแก้ว

สระแก้ว 22 ส.ค.-การประชุม RBC ระดับกองเลขาฯ ไทย-กัมพูชา รอข้ามคืน ฝ่ายกัมพูชาส่งข้อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจ ก่อนเปิดโต๊ะเจรจา ‘ตี1’ เสร็จ ‘ตี2’ นำเข้า RBC วงใหญ่ 10 โมงเช้าวันนี้ ซึ่งฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้วตามกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับกองเลขานุการ ที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ซึ่งเดิมกำหนดในเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มาถึงเวลา 18.00 น. กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก ชี้แจงว่า การประชุมยังดำเนินการอยู่ ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล ซึ่งฝ่ายกัมพูชาต้องให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองพิจารณา ก่อนขึ้นโต๊ะเจรจากับฝ่ายไทย จนถึงเวลาประมาณ 00.05 ของวันที่ 22ส.ค. พลโท ซอ กึมปะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ประธานคณะทำงาน และคณะของฝ่ายกัมพูชา เดินทางมาถึง สโมสร […]

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]

ล่า 18 วัน รวบแล้วมือยิง “กำนันเล้น”

ตรัง 21 ส.ค.- เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มกำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตคารถ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ตำรวจรวบตัวคนร้ายได้แล้ว หลังหนีกบดานนานถึง 18 วัน พร้อมเตรียมสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ ติดตามจากรายงาน -สำนักข่าวไทย