ออมสินเผยดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจสตาร์ทอัพไตรมาส 4 ลดลงต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – ออมสินเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไตรมาส 4/62 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50                   


นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (SSI) ไตรมาส 4 ปี 2562 ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการสตาร์ทอัพทั่วประเทศ 500 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนี SSI ไตรมาส 4 ปี 2562 อยู่ที่ระดับ 51.65 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตาร์ทอัพยังมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวม 

อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนีฯ ไตรมาส 4 มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการที่หลากหลาย  เช่น มาตรการประกันรายได้เกษตรกรที่เริ่มการจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรในช่วงเดือนพฤศจิกายน และโครงการ ชิม ช้อป ใช้ ที่ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งสามารถช่วยให้การผลิตและการขายสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นได้บ้างก็ตาม แต่จากภาวะเศรษฐกิจของไทยโดยรวมยังซบเซาส่งผลให้ผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่าย โดยเลือกจ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็น อีกทั้งเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องกระทบต่อการส่งออก รวมถึงจำนวนและค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้ฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยไม่คึกคักเท่าที่ควร จึงส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพปรับตัวลดลงเล็กน้อย


สำหรับดัชนี SSI อีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ประเมินว่าภาวะธุรกิจในภาพรวมมีโอกาสดีขึ้น สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์อีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 59.32 จากการที่หลายประเทศเริ่มใช้มาตรการทางการเงินผ่อนคลาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นและส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ถ้า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ประกาศใช้ต้นไตรมาส 1 ปี 2563 จะส่งผลให้มีเม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายสินค้าและบริการในลำดับต่อไป อย่างไรก็ตาม จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศ ครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายและลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง รวมถึงการแข่งขันทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นล้วนยังคงเป็นปัจจัยบั่นทอนต่อยอดขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการ ซึ่งอาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก